กระทรวงสาธารณสุข ย้ำขณะนี้ยังไม่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค คัดกรองและคัดแยกผู้ป่วยได้เร็ว รับการตรวจรักษาเร็ว

วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และดร.แดเนียล เคอร์เทซ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย แถลงข่าวมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศไทยได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2563 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ รวมทั้งมีการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชน พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนทั้งหมด 12 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล รักษาหายให้กลับบ้านแล้ว 8 ราย มีผู้ป่วยหนึ่งรายที่มีไข้สูงตรวจพบจากการคัดกรองด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้ารับการรักษาในห้องแยกโรคความดันลบ สถาบันบำราศนราดูรเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 โดยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2563 พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นรายแรกของประเทศไทยและเป็นรายแรกที่ตรวจพบนอกประเทศจีน ขณะนี้ได้รับการรักษาหายแล้ว และพร้อมจะเดินทางกลับประเทศ โดยขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มในประเทศไทย และมีการเฝ้าระวังบุคลากรการแพทย์ที่ให้การดูแลรักษาทุกคน พบว่าไม่มีผู้ใดติดเชื้อนี้

“ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว ท่านได้มอบนโยบายว่าขอให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับประชาชน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนข้อมูลและให้กำลังใจชาวสาธารณสุขที่ดูแลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก การพบผู้ป่วยถือว่าเป็นประสิทธิภาพของระบบการเฝ้าระวังโรคของเรา มั่นใจว่าเราจะควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพและความพร้อมด้านสาธารณสุข มีมาตรฐานการตรวจวินิจฉัยและระบบการรักษาพยาบาลในระดับสากล มีการประสานงานใกล้ชิดกับองค์การอนามัยโลก หน่วยงานด้านโรคติดเชื้อระดับสากล ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานภายในท่าอากาศยาน ร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ด้วยการคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่นสู่ท่าอากาศยานนานาชาติทั้ง 4 แห่ง เฝ้าระวังในโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งชุมชนในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ประชาชนยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตามปกติ หากเดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาดเมืองอู่ฮั่นภายใน 14 วัน และมีอาการไข้ เจ็บคอ น้ำมูกไอ เสมหะ หรือหายใจเหนื่อยหอบ ขอให้รีบพบแพทย์ หรือแจ้งมายังกระทรวงสาธารณสุข สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
————————————————————————————–