วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยับยั้ง การถอนของมิจฉาชีพได้ จำนวนเงิน 1,040,924.56 บาท มอบแด่พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ดำเนินการบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชน 3 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อน
ซึ่งก่อนหน้าได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพแล้ว จำนวน 91 ราย รวมเป็นเงิน 16,401,724.91 บาท และในวันที่ 3 ก.ค.61 ได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพ จำนวน 3 ราย จำนวนเงิน 1,040,924.56 บาท รวมส่งมอบเงินคืนผู้เสียหายไปแล้วทั้งสิ้น 94 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 17,442,649.47 บาท
สำหรับสถิติการรับเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ปปง. มีผู้แจ้งผ่านสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 จนถึงปัจจุบัน (3 ก.ค.61) มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงิน จำนวน 387 ราย เหตุเกิดแล้วรีบแจ้ง 210 ราย เหตุเกิดแล้วแจ้งภายหลัง 177 ราย รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 172,915,325.86 บาท สามารถยับยั้งและช่วยเหลือได้จำนวน 93 ราย มูลค่ารวม 37,716,707.15 บาท
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนักงาน ปปง. สถาบันการเงิน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนหลายกลุ่ม แต่มิจฉาชีพก็ยังพยายามหลบหนีและหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ โดยใช้รูปแบบการหลอกลวงแบบใหม่ๆ ที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึงขอแจ้งเตือนประชาชน ขอให้ประชาชนรับฟังการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานของรัฐ และอย่าหลงเชื่อ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง อย่าหลงเชื่อเมื่อมีคนโทรเข้ามือถือหรือโทรเข้าที่บ้าน ให้รีบวางสายทันทีและรีบแจ้งตำรวจ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพใช้บัญชีของประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดอีกต่อไป และหากถูกหลอกแล้วให้รีบโทรแจ้ง ศปก.ปปง. สายด่วน ปปง. 1710 ซึ่งเปิดทำการทุกวันโดยไม่เว้นวันหยุดราชการ