รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ  ธรรมนัส เร่งรัดที่ดิน ส.ป.ก. ค้างจัดกว่า 20,000 ไร่ จ.นครศรีธรรมราช ให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน แก้ไขปัญหาราษฎรไม่มีเอกสารสิทธิ พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวขัอง

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2562 ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (เอกสาร ส.ป.ก. 4-01) ให้แก่ เกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 50 ราย พร้อมมอบสินเชื่อเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 3 กลุ่ม (14 ราย) เป็นจำนวนเงิน 700,000 บาท และรับฟังการบรรยายของเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ โดยนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาปรับปรุงบำรุงดิน พัฒนาดิน อีกทั้งได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในจังหวัดนครศรีธรรมราชเ โดยมีนางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน นายถาวรวัฒน์  คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสุริยน  พัชรครุกานนท์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ร่วมในพิธีในครั้งนี้ ณ โรงแรมราวดี ตำบลปากพูน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ต่อมา ร้อยเอก ธรรมนัส  พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะกลุ่มสมัชชาเครือข่ายที่ดินทำกิน จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแก่เกษตรกรในพื้นที่ เพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ได้มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสิทธิการเข้าทำประโยชน์ของทางราชการ โดยจะประสานรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการบูรณาการร่วมกัน และนำเรียนนายกรัฐมนตรีให้ทราบปัญหาแนวทางแก้ไข และมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการในฐานะประธานคณะกรรมการฯ อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ ปัญหาเอกสารสิทธิที่ดินทำกินที่ค้างจัดของ ส.ป.ก. จ.นครศรีธรรมราช เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ต้องเร่งดำเนินให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน  ในส่วนที่ดินของ ส.ป.ก. ที่มีผู้ถือครองรายใหญ่ ที่ไม่มีคุณสมบัติตามระเบียบของ ส.ป.ก. จะต้องยึดคืน รวมถึงส่วนราชการที่นำที่ดินไปใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์ จะต้องขอคืนที่ดินดังกล่าว เพื่อนำมาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรที่ไม่มีที่ทำดินทำกินต่อไป

………………………………………