“จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้ฉี่หนูในประเทศไทยปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–15 ธ.ค. 62 พบผู้ป่วยรวม 2,070 ราย เสียชีวิต 28 ราย โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ระนอง พังงา ศรีสะเกษ ยโสธร และตรัง ส่วนภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคใต้ รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง ตามลำดับ อาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพส่วนใหญ่ที่พบโรคนี้ จากการเฝ้าระวังเหตุการณ์ฯ พบว่าเฉพาะในเดือนธันวาคมนี้ มีผู้เสียชีวิตสงสัยโรคไข้ฉี่หนู จำนวน 2 ราย ในจังหวัดภาคใต้ คือ ยะลา และพัทลุง”
“พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพในสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้ฉี่หนูเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่ขณะนี้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนอาจได้รับเชื้อโรคดังกล่าวจากการเดินลุยน้ำย่ำโคลนได้ โรคไข้ฉี่หนู มักพบการระบาดในหน้าฝนหรือช่วงที่มีน้ำท่วมขัง โดยสัตว์ที่แพร่เชื้อ ได้แก่ พวกสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู เป็นต้น คนมักติดโรคจากการสัมผัสแหล่งน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หรือการดื่มกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค อาการที่พบส่วนใหญ่จะมีไข้ ปวดศีรษะ ตาแดง และปวดกล้ามเนื้อรุนแรง เป็นต้น และอาจทำให้มีอาการรุนแรงเช่น ตับวาย ไตวาย ภาวะการหายใจล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้ กรมควบคุมโรค ขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ยังมีฝนตกต่อเนื่อง ควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรือลุยในน้ำที่อาจปนเปื้อนเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์นำโรค และผู้ที่ทำงานเสี่ยงต่อโรค ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือยาง รองเท้าบูท เป็นต้น หากมีอาการไข้สูง ร่วมกับปวดศีรษะ ตาแดง ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณน่อง หลังสัมผัสจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”
*******************************************************
ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 21 ธ.ค. 2562