ธุรกิจเครื่องสำอางเติบโตไม่หยุด อย. ลุยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาสถานที่ผลิต นำเข้า หรือเก็บเครื่องสำอางให้ได้มาตรฐานระดับสากล ส่งผลถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยจัดเวที ให้ข้อมูลความรู้ตามกฎหมาย พร้อมรับฟังความเห็นกลับมาพัฒนาระบบการคุ้มครองผู้บริโภคด้านเครื่องสำอาง ให้มีประสิทธิภาพ
นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เนื่องจากอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าและการขยายตัวสูงมาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เห็นถึงความสำคัญของการดูแลให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีคุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จึงได้มีนโยบายส่งเสริมผู้ผลิต ผู้รับจ้างผลิต และผู้นำเข้าเครื่องสำอางให้สามารถพัฒนาสถานที่ผลิต สถานที่นำเข้า และเก็บรักษาเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องสำอางมีคุณภาพดี ได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และสามารถส่งออกทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้น โดยได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการผลิต หรือนำเข้าเครื่องสำอาง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 มีผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ต้องดำเนินการให้สถานที่ประกอบการ ของตนเองได้มาตรฐานตามกฎหมายตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา ส่วนผู้ประกอบการรายเดิม อย. ได้ติดตามส่งเสริม สนับสนุนให้ปรับปรุงสถานที่ให้เป็นไปตามประกาศฯ มาโดยตลอด โดยผู้ประกอบการรายเก่าทุกรายต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2563
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหม่และรายเก่าที่มีสถานที่ผลิต นำเข้า และสถานที่เก็บรักษาเครื่องสำอางมีความรู้ความเข้าใจและทราบแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องในการปรับปรุงสถานประกอบการของตนเองให้มีมาตรฐาน จึงได้จัดประชุมชี้แจงภายใต้โครงการส่งเสริมพัฒนาสถานประกอบการสู่มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการผลิตหรือนำเข้าเครื่องสำอาง ประจำปี 2563 ซึ่งนอกจากการให้ข้อมูล เพื่อการพัฒนาสถานประกอบการแล้ว ยังเปิดเวทีในการรับฟังปัญหาอุปสรรคและแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ตลอดจนการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้เครื่องสำอางด้วย โดยจัดประชุมในวันที่ 17 – 18 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรม มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด และเจ้าหน้าที่จาก อย. เข้าร่วมอบรม จำนวน 500 คน เลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า อย. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมนี้ จะก่อให้เกิดการประสาน ความร่วมมือกัน จนสามารถพัฒนาสถานประกอบการเครื่องสำอางให้มีมาตรฐานตามกฎหมาย และมาตรฐานตามสากล ทำให้ระบบคุ้มครองผู้บริโภคมีความเข้มแข็งและผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยจากการใช้เครื่องสำอาง