กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมพัฒนาการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรค และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในเครือข่ายสาธารณสุข ปศุสัตว์ และท้องถิ่นในการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่ประเทศไทย
วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา และรองประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมด้วยนายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมพิธีเปิดการประชุมโครงการส่งเสริมพัฒนาการสร้างพื้นที่ปลอดโรค ที่จัดโดยกรมควบคุมโรคร่วมกับกรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้จัดขึ้น เพื่อดำเนินงานป้องกันควบคุมโรค และพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในเครือข่าย หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวว่า ด้วยพระปณิธานของศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่มีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทย เพื่อสนองพระปณิธานและพระวิสัยทัศน์ดังกล่าว รวมทั้งน้อมเกล้าจารึกพระเกียรติคุณในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 รัฐบาลจึงเห็นสมควรให้ดำเนินโครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า” ตามพระปณิธานฯ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการปี 2560-2563 โดยมีเป้าประสงค์ให้ประเทศไทยไม่มีคนและสัตว์เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าอย่างยั่งยืน
ด้านนายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวเสริมว่า กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดทำโครงการดังกล่าวภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไป…ประเทศไทยรับรองการเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า” ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการดำเนินการแบบบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ปี 2562 ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าเพียง 3 ราย และพบสัตว์ติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 346 ตัว (คิดเป็นร้อยละ 5.26 ของตัวอย่างที่ส่งตรวจทั้งหมด) ซึ่งถือว่าสถานการณ์โรคในคนมีแนวโน้มดีขึ้น โดยจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงจากปี 2561 มากถึง 6 เท่า และมีบางพื้นที่ไม่พบการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและในสัตว์ต่อเนื่องมามากกว่า 2 ปี ซึ่งทิศทางของการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในระยะต่อไป ยังคงต้องมีความต่อเนื่องและเข้มแข็ง พื้นที่ที่ไม่เกิดโรคควรมีการเตรียมความพร้อมเพื่อขอประเมินและรับรองเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า สำหรับพื้นที่เสี่ยง ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งรัดดำเนินการ ให้การสนับสนุนทั้งด้านกำลังคน งบประมาณ วิชาการ และการบริหารจัดการที่ดี การประชุมในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 250 คน ประกอบด้วยแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และผู้รับผิดชอบงานโรคพิษสุนัขบ้า จากหน่วยงานกรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง โดยกิจกรรมการประชุมประกอบด้วยการบรรยายและอภิปรายจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ครั้งนี้ จะมีการต่อยอดและนำไปสู่การพัฒนาการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าของประเทศไทย ต่อไป
*******************************************************