กระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมครอบครัวไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงเสียชีวิต ด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ตั้งเป้าปี 2563 เพิ่มจำนวนสมาชิกครอบครัวออกกำลังกายให้ได้ 1 ล้านครอบครัว โดยนำคีตะมวยไทย 10 ท่า มาใช้ประกอบการออกกำลังกาย ส่งผลดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม
วันที่ 16 ธันวาคม 2562 นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานกิจกรรมทางกายด้วยคีตะมวยไทย ณ โรงแรมสวนบัวรีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ประเทศไทยมีแผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายพ.ศ. 2561–2573 โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงด้วยกิจกรรมทางกายในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมภายใต้ 3 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การส่งเสริมกิจกรรมทางกายประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. การส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกาย และ 3. การพัฒนาระบบสนับสนุนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เนื่องจากวัยทำงานมีแนวโน้มการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือ NCDs (non-communicable diseases ) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในแต่ละปีโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคหลอดเลือดสมองหัวใจขาดเลือดโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 36 ล้านคนทั่วโลก และประเทศไทยมีประมาณ 320,000 คนต่อปีคิดเป็นร้อยละ 75 ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การกินอาหารหวาน มัน เค็ม ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ และมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ
“ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค แต่ยังขาดระบบการสำรวจข้อมูล จัดเก็บข้อมูล และการติดตามที่เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัยจึงดำเนินงานโครงการ 10 ล้านครอบครัวไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ เพื่อพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลการบริหารงาน สร้างความรอบรู้ด้านการมีกิจกรรมทางกาย และขับเคลื่อนการออกกำลังกายในชุมชน ด้วยการนำกิจกรรมคีตะมวยไทย 10 ท่าออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ มาเป็นกิจกรรมหลักในโครงการ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนประชาชนที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกออกกำลังกายแล้วทั้งสิ้น 110,662 ครอบครัว โดยตั้งเป้าหมายปี 2563 เพิ่มจำนวนสมาชิกให้ได้ 1 ล้านครอบครัว นอกจากนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ นำกลไกคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ขับเคลื่อนงานโครงการ 10 ล้านครอบครัวไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ผ่านอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เพื่อบรรลุเป้าหมายผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการของจังหวัด จำนวน 30,095 ครอบครัวและคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300,950 ครอบครัวในปี 2565 พร้อมทั้งจะขับเคลื่อนในทุก ๆ จังหวัดให้ได้เป้าหมายครบ 10 ล้านครอบครัวไทยต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามรายละเอียดขั้นตอนการสมัครได้ที่เว็บไซต์ครอบครัวอบอุ่นออกกำลังกาย http://activefam.anamai.moph.go.th” นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าว
ทางด้าน แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กิจกรรมคีตะมวยไทย 10 ท่านี้ เป็นกิจกรรมที่นำแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ท่า มาผสานท่วงท่าและลีลาการเต้นประกอบให้เข้ากับจังหวะเสียงเพลงในรูปแบบของการเต้นแอโรบิก มีทั้งหมด 10 ท่าด้วยกันคือ ท่าที่ 1 หมัดตรงท่าที่ 2 หมัดตวัด (หมัดฮุค) ท่าที่ 3 หมัดเสย (หมัดสอยดาว) ท่าที่ 4 ศอกกระทุ้ง ท่าที่ 5 ศอกตัด ท่าที่ 6 ศอกงัด ท่าที่ 7 เข่าตรง ท่าที่ 8 เตะตรง (เตะผ่าหมาก) ท่าที่ 9 เตะตัด และท่าที่ 10 ถีบด้วยส้นเท้า เป็นการอนุรักษ์และเผยแพร่แม่ไม้มวยไทย ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อสุขภาพหลากหลายด้าน ได้แก่ 1. ทางด้านร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปอดและระบบไหลเวียนโลหิต เพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อเอ็นและข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบประสาท 2. ทางด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด สร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเอง สร้างความสนุกสนานและทำให้มีทัศนคติที่ดีต่อร่างกาย เป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว และ 3. ทางด้านสังคม ทำให้มีเพื่อนใหม่สังคมใหม่ๆ เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับสังคม เพิ่มความเชื่อมั่นให้ตัวเองพร้อมกับพัฒนาบุคลิกภาพ
…………………………………………..
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ