เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 62 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายซึ่งเคยให้ไว้ตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่งทั้งเรื่องยกระดับความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว (Safety), การส่งเสริมความสะอาดและรักษ์สิ่งแวดล้อม (Clean), การส่งเสริมความเป็นธรรม ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว (Fair), และการสร้างรายได้สู่ท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งจนถึงวันนี้ได้รับทราบว่าแต่ละหน่วยงานมีกิจกรรมที่สอดรับกับนโยบายดังกล่าวแล้วเป็นอย่างดีแต่ต้องการให้เน้นงานหรือกิจกรรมที่ไม่เป็นการทำร้ายทำลายทรัพยากรของประเทศไทยทั้งโบราณสถานและแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เพราะปัจจุบันเราต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วม 40 ล้านคน เมื่อรวมกับนักท่องเที่ยวชาวไทยย่อมสร้างความบอบช้ำให้แหล่งท่องเที่ยวของเราเป็นธรรมดา ดังนั้นโครงการที่สามารถคืนความสมดุลให้แก่ธรรมชาติ หรือกระตุ้นจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์เพื่อสร้างความยั่งยืนจึงเป็นเรื่องที่น่าส่งเสริม เช่น กิจกรรมการเก็บขยะใต้ทะเล ที่จะมีกำหนดจัดขึ้นประมาณปลายเดือนธันวาคม 2562 ที่อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทุกฝ่ายควรช่วยกันรณรงค์
รมว.พิพัฒน์ กล่าวย้ำแก่ผู้บริหารที่เข้าประชุมว่า “เป้าหมายของผมคือต้องการยกระดับการทำงานของทุกหน่วยให้ตอบสนองต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาทั้งระบบเพื่อก้าวสู่การเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ เพราะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นกระทรวงที่มีองค์ประกอบของภาคธุรกิจบริการทั้งท่องเที่ยวและกีฬาที่ครบถ้วน สามารถขับเคลื่อนการบริหารจัดการโดยหน่วยงานของกระทรวงได้เองตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าที่ชัดเจนทั้ง Demand Side (กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) และ Supply Side (ผู้ประกอบการ/สถานประกอบการ) ซึ่งการทำงานขอให้เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามแนวทางของรัฐบาลด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ และเพิ่มมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้สูงขึ้น ส่วนด้านกีฬาจะต้องเชื่อมโยงแผนการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามแผนแม่บทเพิ่มศักยภาพกีฬา และแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560-2564)” สำหรับการประชุมในวันนี้นอกจากจะเป็นการติดตามงานที่เคยมอบหมายเป็นนโยบายกันไว้แก่หน่วยงานแล้วก็ได้หารือเตรียมการเรื่องของแผนการจัดทำคำของบประมาณของปี พ.ศ. 2564 กันไปด้วย ซึ่งจากนี้ไปได้กำหนดไว้ว่าจะมีการพบปะกันเป็นประจำทุกสัปดาห์โดยให้หน่วยงานได้มีโอกาสหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ และขอให้แต่ละหน่วยงานได้กลับไปถ่ายทอดถึงบุคลากรทุกระดับได้รับทราบและเกิดความเข้าใจเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน
********************************************************