รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดกระทรวงต้อนรับรัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนีสุดอบอุ่น ใช้โอกาสกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-เยอรมนี ตั้งเป้าการค้า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 เตรียมฟื้นการเจรจาคณะกรรมการร่วมเศรษฐกิจสองฝ่าย พร้อมสนับสนุน การเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการพบหารือกับ นายโทมัส บาไรส์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี ที่ก่อนหน้านี้ได้นำบริษัทชั้นนำของเยอรมนีที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญด้านโลหะการกว่า 50 ราย เข้าร่วมแสดงสินค้า METALEX 2019 ซึ่งไทยร่วมกับสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรแห่งเยอรมนี (VDW) เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ว่า นับเป็นครั้งแรกที่เยอรมนีให้ความสำคัญกับการนำบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นนำของเยอรมนีเยือนประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะไทย ซึ่งเยอรมนียินดีที่จะร่วมมือและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยีของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ของไทย โดยเฉพาะ SME ในอุตสาหกรรมโลหะการ เทคโนโลยีพลังงานทดแทน และเกษตรอินทรีย์ ซึ่งตนได้ใช้โอกาสนี้เชิญชวนให้เยอรมนีมาลงทุนในไทยมากขึ้น รวมทั้งใช้ไทยเป็นประตูการค้าและการลงทุนสู่ภูมิภาคอาเซียนและเอเชียได้
นายวีรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่ายได้ใช้โอกาสนี้หารือเรื่องการฟื้นเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจไทย – เยอรมนี ระดับรัฐมนตรี ที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2546 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้ว่างเว้นการประชุมไปหลายปี โดยการประชุมครั้งสุดท้ายจัดขึ้นในปี 2555 ให้กลับมาเป็นเวทีหารือกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างกันใหม่ เพื่อมุ่งขยายการค้าสองฝ่ายจาก 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน สู่เป้าหมายการค้า 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 ตามที่ผู้นำสองประเทศตั้งเป้าไว้ โดยเยอรมนีแจ้งว่าพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงเบอร์ลินในช่วงกลางปี 2563 นอกจากนี้ นายบาไรส์ยังสนับสนุนให้ฟื้นการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป เพื่อเป็นหนึ่งในกลไกการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ เยอรมนีถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย โดยในปี 2561 ไทยและเยอรมนีมีมูลค่าการค้ารวม 1.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 7.2 โดยไทยส่งออกไปเยอรมนี 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้เเก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เเละไทยนำเข้าจากเยอรมนีมูลค่า 6.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้เเก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และในปี 2561 ไทยไปลงทุนในเยอรมนีมูลค่าประมาณ 353 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่เยอรมนีมีการมาลงทุนในไทยมูลค่าประมาณ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ
———————————————-
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์