กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดนวัตกรรมการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุสุขภาพดีพื้นที่ที่มีการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาวดีเด่น รางวัล Care Managr และCare Giver ที่ปฏิบัติงานดีเด่น พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติผู้รับรางวัลชนะเลิศ 6 ประเภทดีเด่นระดับประเทศ
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดนวัตกรรมการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สูงอายุสุขภาพดี พื้นที่ที่มีการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาวดีเด่น ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์ของผู้สูงอายุไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีจำนวน 11.5 ล้านคน หรือร้อยละ 17.48 คาดว่าในปี 2564 จะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์” มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 จึงต้องเตรียมการเพื่อรองรับเนื่องจากผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงการเป็นโรคเรื้อรัง คาดงบประมาณที่ต้องใช้ในการดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเฉลี่ยประมาณ 15 ล้านบาทต่อปี จึงต้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพก่อนวัยสูงอายุและเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยได้จัดระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและผู้พิการในชุมชน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ซึ่งเป็นผู้จัดทำแผนการดูแลรายบุคคล ทั้งสุขภาพร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม ควบคุมกำกับการทำงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) อาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นในพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ให้กับคนในครอบครัว และชุมชน ให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ “การผลิตนวัตกรรมในการดูแลผู้สูงอายุเป็นการสร้างมูลค่าของทรัพยากรที่มีในชุมชนให้เกิดประโยชน์ และเป็นการต่อยอดการจัดระบบบริการสุขภาพที่เหมาะสมกับพื้นที่
“ทั้งนี้ ในปี 2574 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด ในปี 2560 มีอายุคาดเฉลี่ยเมื่อแรกเกิด (Life Expectancy) 75.4 ปี ซึ่งเป็นลำดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ (83 ปี) และบรูไน (77 ปี) และข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า อายุคาดเฉลี่ยภาวะสุขภาพดีคนไทยในปี 2558 มีค่าเท่ากับ 66.8 ปี สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก แนวโน้มเจ็บป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่คือ โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็ง โรคไตวาย ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีให้ผู้ปฏิบัติงาน (Care Manager) ในระดับพื้นที่ได้นำเสนอการปฏิบัติงาน นวัตกรรม และวิจัยทางด้านส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง รับฟังแนวทางและนโยบายการปฏิบัติงานปีงบประมาณ 2563 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณดีเด่น 6 ประเภท ได้แก่ ตำบลดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ระยะยาว ชมรมผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุต้นแบบสุขภาพดีชีวีมีสุข ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และนวัตกรรมด้านการส่งเสริมดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหาร นักวิชาการผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุ จากส่วนกลางและภูมิภาค จำนวน 640 คน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
***********************************************************