รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด โดยเป็น 1 ใน 32 โรงพยาบาลที่เปิดให้บริการในระยะที่ 2 เน้นรักษาใน 5 กลุ่มโรค คือ ลมชักดื้อยา คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ภาวะปวดประสาท ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ปลอกประสาทอักเสบ/เสื่อมแข็ง และผู้ป่วยระยะประคับประคอง มะเร็งระยะสุดท้าย
วันที่ 30 ตุลาตม 2562 ที่ จ.ตาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์โรงพยาบาลแม่สอด และให้สัมภาษณ์ว่า คลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลแม่สอดแห่งนี้ เป็น 1 ใน 32 โรงพยาบาลที่ได้เปิดบริการเพิ่มในระยะที่ 2 เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชา เข้าถึงกัญชาเพื่อการรักษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรม ด้วยระบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง โดยได้รับสารสกัดน้ำมันกัญชาจากโรงพยาบาลอภัยภูเบศรแล้ว 200 ขวด การเปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดจากกัญชารักษาโรคภายใต้การดูแลของแพทย์ เภสัชกร พยาบาลที่ผ่านการอบรม และเป็นการเก็บข้อมูลผลการรักษาเพื่อนำมาวิเคราะห์วิจัย พัฒนายกระดับการใช้สารสกัดกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งจะเป็นนวตกรรมที่เกิดประโยชน์กับวงการแพทย์ต่อไป
สำหรับคลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด เปิดบริการรักษาผู้ป่วยใน 5 กลุ่มโรคหลัก คือ โรคลมชักดื้อยา คลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด อาการปวดที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ปลอกประสาทอักเสบ/เสื่อมแข็ง และผู้ป่วยระยะประคับประคอง มะเร็งระยะสุดท้าย ภายใต้การดูแลบุคลากรที่ผ่านการอบรมคือ แพทย์ 1 คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลวิชาชีพ 3 คน และแพทย์แผนไทย 2 คน เปิดให้บริการทุกวันพฤหัส สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 8.30 – 12.00 น. คาดว่าจะให้บริการประชาชนได้วันละ 30 ราย โดยมีอายุรแพทย์ประสาทวิทยา จิตแพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน แพทย์นิติเวชและห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ร่วมให้การดูแลและให้คำปรึกษา
ทั้งนี้ จังหวัดตากเป็น 1 ในจังหวัดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันตก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการเคลื่อนย้ายประชากรของแรงงานต่างชาติ รวมทั้งโรคติดต่อตามแนวชายแดน ซึ่งโรงพยาบาลแม่สอดเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายรับส่งต่อผู้ป่วยจากสถานพยาบาลภาครัฐและองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ (Non-government Organizations : NGO) ในพื้นที่ชายแดน รวมทั้งรับส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเมียวดีที่มีความประสงค์จะมารักษาต่อ โดยการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายชายแดน การจัดบริการเชิงรุกอย่างเป็นมิตรในโรงพยาบาลชุมชน และข้ามประเทศ การพัฒนาระบบข้อมูลสาธารณสุขต่างชาติ และการพัฒนาความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนภายในและนอกประเทศ
…………………………………………..