จุรินทร์ สั่งการตั้งวอร์รูม ใน กรอ.พาณิชย์ รับมือตัด GSP เร่งเจาะตลาด รายมณฑล-รายรัฐ ด่วน!

วันที่ 30 ตุลาคม 2562 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าสำหรับความคืบหน้าเรื่องจีเอสพี วันนี้ตนได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ DC ประสานงานกับเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตันและทูตแรงงานเพื่อที่จะได้นัดหมายไปหารือกับ USTR ที่วอชิงตันซึ่งได้รับรายงานมาแล้วว่าจะมีการนัดหมายเข้าพบ เพื่อหารือกันในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ผลเป็นอย่างไรก็จะรายงานมาให้ทราบต่อไป

ประการที่สอง คือในส่วนของการเตรียมการสำหรับการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการตลาดก็จะมี 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งในภาพรวมทั้งหมดก็มีการเตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้วในการบุกตลาดใหญ่ๆทั่วโลก 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ซึ่งมีการประชุม กรอ.พาณิชย์โดยก่อนหน้าที่จะทราบว่ามีการตัดสิทธิ GSP สินค้าไทย โดย 10 ตลาดใหญ่ก็อย่างที่ตนได้รายงานให้ทราบแล้วว่าตลาดสำคัญโดยเฉพาะประเทศใหญ่ ๆ ที่มีประชากรมากมีศักยภาพสูง เช่น จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา การดำเนินการจะลงลึกถึงหลายมณฑล เช่น ในจีน หรือรายรัฐในรายสหรัฐอเมริกา จึงได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ทำรายละเอียดมาว่ารัฐไหนมีความต้องการสินค้าบริการอะไรของเรา และเราสามารถเจาะตลาดได้ในรูปแบบไหนอย่างไรควรจะไปขายอะไร ดำเนินการลงลึกถึงรายละเอียดและผมจะทำหน้าที่ในการนำทัพเอกชนร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ไปบุกตลาดทั้ง 10 ตลาด +3 ประเทศใหญ่ดังที่เรียน

สำหรับหมวดสินค้าที่ถูกตัด GSP มี 500 กว่ารายการด้วยกันนั้น แต่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 4-5 โดยประมาณ แต่ตั้ง 500 กว่ารายการมีผลกระทบที่แตกต่างกันเช่นบางรายการเคมีภัณฑ์มีภาระภาษีจาก 0% เป็น 0.01% ซึ่งเกือบจะเรียกได้ว่าไม่กระทบเลยแต่บางรายการก็เสียภาษี 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ ตนได้มอบให้ท่านปลัดกระทรวงจัดตั้งวอร์รูมในเรื่องนี้ขึ้นมาใน กรอ.พาณิชย์ เพื่อหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนที่ได้รับผลในเรื่องของภาษีที่ต้องจ่ายในการนำเข้าสินค้าไปยังสหรัฐเฉพาะตัวที่ได้รับผลกระทบสำคัญๆ โดยให้หารือกันและข้อสรุปร่วมกันว่ากระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคลี่คลายปัญหานี้อย่างไรชดเชยอย่างไร หรือเจาะตลาดอื่นหรือเข้าไปดูแลช่วยเหลืออย่างไร และจะจับมือร่วมกันทำตัวเลขเก่าให้คงเดิมหรือเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ตนจะเชิญประชุมอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่วอร์รูมได้ข้อสรุปมาแล้วนี่คือสิ่งที่ขอเรียนให้ทราบความคืบหน้า

สำหรับการประชุมอาเซียนซัมมิท มีการประชุมกัน โดยถ้าเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและRCEP หรือ มีอาเซียน + สหรัฐ + จีน อินเดีย ตนจะเป็นประธานในที่ประชุมเวทีนี้ต้องดูความเหมาะสม เพราะเป็นเวทีอาเซียน แต่กรณี GSP นี้เป็นประเด็นเฉพาะไทยกับสหรัฐไม่ใช่อาเซียนกับสหรัฐ สำหรับการนำเข้าหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตามที่ถามอันนั้นเป็นสิ่งที่เขาเรียกร้องมานานแล้วแต่เที่ยวนี้เป็นเรื่องแรงงาน ไม่ใช่เรื่องที่ใช้ในการตัดสิทธิ์ในรอบนี้ อย่างไรก็ตามเราต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักถ้าปล่อยให้มีการนำเข้าเนื้อแดงที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐจะกระทบกับสุขอนามัยของผู้บริโภคเราหรือไม่อย่างไร

สำหรับการประชุมครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 30 จนถึงวันที่ 4-5 พ.ย.2562 มีหลายวงทั้งวงรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนทั้งวงรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน + จีน + อินเดีย + ออสเตรเลีย + นิวซีแลนด์ + เกาหลีญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งการประชุมวันศุกร์นี้กับ USTR (ผู้แทนการค้า) จะตรงประเด็นที่สุดและเร็วที่สุดแล้ว

………………………………………………..