นายซุน ป๋อ CMO ของ Ctrip Group ได้เข้าพบนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อหารือถึงความร่วมมือที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการมาท่องเที่ยวยังจุดหมายปลายทางโปรดช่วงวันหยุดอย่างประเทศไทยกันมากขึ้น โดยการพบปะครั้งนี้ได้เปิดโอกาสในความร่วมมือด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การทำการตลาดการท่องเที่ยว ไปจนถึงการร่วมใช้แนวปฏิบัติในอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ
ด้วยวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่น อาหารเลิศรส ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม และการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองด้วยรอยยิ้มติดระดับโลก ประเทศไทยจึงเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งนักท่องเที่ยวหน้าใหม่และผู้ที่ติดใจจนกลับมาเยือนอีกครั้ง ทั้งนี้ ด้วยการเสนอตัวเป็นพาร์ทเนอร์กับ Ctrip ประเทศไทยจะมีการพัฒนาและมีโปรโมชันที่พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนฐานะดี
ในปี 2561 ประเทศไทยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 10.6 ล้านคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย สำหรับในปี 2563 ททท.คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนไทยจะทะลุ 11 ล้านคน ซึ่งจะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศถึง 5 แสนล้านบาท (ประมาณ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของเศรษฐกิจไทย หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 12% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2561
Ctrip มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคน ซึ่งถือเป็นอันดับหนึ่งในฐานะผู้ทำการตลาดในแหล่งท่องเที่ยว ในโอกาสนี้ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “จีนเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นอันดับ 1 และเรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้สามารถดูแลนักท่องเที่ยวจีนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เรามีความยินดีที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ Ctrip ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวไทยสามารถเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น และการร่วมมือกับ Ctrip เพื่อแบ่งปันความหลากหลายของประเทศไทยให้กับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากขึ้นนั้น จะทำให้ไทยยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำ”
ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีนและทั่วโลกมานานแล้ว ประเทศไทยจึงได้เปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับพรีเมียม เพื่อผลักดันให้กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้เติบโตต่อไป ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์ของ Ctrip ระบุว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวขาออกจากจีนในช่วงวันชาติจีนที่ผ่านมา และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางเอง (FIT) ในโอกาสนี้ นายซุน ป๋อ CMO ของ Ctrip กล่าวว่า บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) รายนี้ พร้อมดึงดูดลูกค้าระดับพรีเมียมเข้ามาในไทยมากขึ้น พร้อมทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งสร้างประสบการณ์น่าประทับใจให้กับทุกคน
“ความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ อบอุ่น และมีคุณค่า ได้รับการยอมรับและชื่นชมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก” นายซุน ป๋อ CMO ของ Ctrip กล่าว “ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นจุดโฟกัสหลักของเราในการเดินหน้าขั้นต่อไป และเราตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับประเทศไทยเพื่อส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบไทย ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยม พร้อมพัฒนาตลาดเพื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาและการผจญภัย กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาแต่งงานหรือฮันนีมูน นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รวมถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ที่กำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และคุ้มค่า”
Ctrip มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่นต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อมาตลอดว่า การทำธุรกิจของบริษัทควรต้องสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อมวลมนุษยชาติและโลกใบนี้ และด้วยโครงการริเริ่มตามหลักความยั่งยืนหลายโครงการของบริษัท Ctrip หวังที่จะร่วมงานกับอุตสาหกรรมในท้องถิ่นของไทย เพื่อพัฒนาประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วยระบบ Global SOS พร้อมสร้างหลักประกันว่าการท่องเที่ยวจะเป็นไปตามหลักความยั่งยืน เพื่อให้สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีความโดดเด่นในประเทศไทยยังคงอยู่เพื่อลูกหลานในอนาคตข้างหน้า