กรมการแพทย์ประสานความร่วมมือกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดที่มีปัญหาด้านสารเสพติด

กรมการแพทย์ โดย สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี จัดทำบันทึกความร่วมมือทางด้านการพัฒนาวิชาการยาเสพติดและทางด้านการบริการในการแก้ไขบำบัด ฟื้นฟูตามกฎหมาย และได้รับการรักษาตามมาตรฐานอย่างถูกต้องเหมาะสม

 

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์  อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กและเยาวชน มีแนวโน้มยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดมากขึ้น ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ มักจะมีปัญหาอื่นที่มีความยุ่งยากซับซ้อนในการดูแลรักษา เช่น ปัญหาด้านสังคม ครอบครัวและ เศรษฐกิจ เป็นต้น เด็กและเยาวชนที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและการบำบัดรักษา จึงควรได้รับการแก้ไขที่ตรงปัญหาแบบครอบคลุม โดยทีมสหวิชาชีพที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่ใช้สารเสพติด เพื่อที่จะฟื้นฟูผู้กระทำความผิดกลุ่มนี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดโอกาสการทำผิดซ้ำ กรมการแพทย์ โดย สบยช. จึงได้ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี จัดทำบันทึกความร่วมมือการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดที่มีปัญหาด้านสารเสพติด เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ผู้กระทำความผิด ที่มีปัญหาด้านสารเสพติดให้ได้รับการแก้ไขบำบัด ฟื้นฟูตามกฎหมาย และได้รับการรักษาตามมาตรฐานอย่างถูกต้องเหมาะสม รวมถึงเพื่อความร่วมมือด้านวิชาการ งานวิจัย โครงการและกิจกรรมในการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดที่มีปัญหาการด้านสารเสพติด

นายสมพล โพธิ์กิ่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี  กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางความร่วมมือจากบันทึกข้อตกลงประสานความร่วมมือในครั้งนี้ คือ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีดำเนินการคัดกรองเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดที่มีปัญหาด้านสารเสพติดในเบื้องต้น และส่งเข้ารับการบำบัดรักษาตามแนวทางการส่งต่อผู้ป่วยของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิการรักษาอื่น โดย สบยช. จะตรวจประเมิน จำแนก วินิจฉัย  ให้การบำบัดรักษาเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ รวมถึงแจ้งข้อมูลและความก้าวหน้าในการบำบัดรักษา ให้ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีทราบภายใต้หลักสิทธิผู้ป่วย เพื่อประกอบการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดของศาล ทั้งนี้ในกรณีเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับการตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่ามีอาการทางจิตเวชหรือมีพฤติกรรมรุนแรง หรือมีสาเหตุอื่นที่ สบยช. ไม่สามารถรับเข้าบำบัดรักษาได้ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีจะส่งต่อยังสถานพยาบาลอื่นๆตามความเหมาะสมต่อไป

นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการประสานความร่วมมือในด้านการบำบัดรักษาแล้ว ยังมีการประสานความร่วมมือด้านวิชาการ โดยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการศึกษาดูงานระหว่าง ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีและ สบยช.  เพื่อเพิ่มพูนทักษะและศักยภาพ ในการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนผู้กระทำความผิดที่มีปัญหาด้านสารเสพติด รวมทั้งส่งเสริมงานวิจัย โครงการและกิจกรรม เพื่อพัฒนาแนวทางการบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน

#กรมการแพทย์  #สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี #สบยช.