รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาโคนมไทย หนุนส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ชูทางเลือกเกษตรกรไทย

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมและพัฒนาโคนมไทย กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกร โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวรายงานความเป็นมาโครงการส่งเสริมและพัฒนาโคนมไทย นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวต้อนรับ

โอกาสนี้ นายธนา ชีรวินิจ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) พร้อมด้วย นางสาววรรณพร ดอกจำปา ผู้ตรวจราชการกรม ในฐานะผู้แทนเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข) และนางสาวอมรรัตน์  แขวงโสภา ปฏิรูปที่ดินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีและติดตามการเยี่ยมชมกิจการฐานเรียนรู้ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวม 5 ฐาน  ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รัชกาลที่ 9 วัดหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการเยี่ยมชมกิจการฐานเรียนรู้ ทั้ง 5 ฐาน มีสาระสำคัญ และน่าสนใจ คือ

– ฐานเรียนรู้ที่ 1 การจัดการฟาร์ม

– ฐานเรียนรู้ที่ 2 การปรับปรุงพันธุ์สัตว์/พันธุ์สัตว์ที่ตลาดต้องการ

– ฐานเรียนรู้ที่ 3 การจัดการอาหารสัตว์/พืชอาหารสัตว์ที่สำคัญ

– ฐานเรียนรู้ที่ 4 การจัดการสุขภาพสัตว์/มาตรฐานฟาร์ม/การเคลื่อนย้ายสัตว์

– ฐานเรียนรู้ที่ 5 การแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์/การตลาด

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการส่งเสริมและพัฒนาโคนมไทย เป็นกิจกรรมหนึ่ง ที่ส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนม เพื่อให้มีคุณภาพการเลี้ยงสัตว์และมาตรฐานการเลี้ยงสัตว์ ทัดเทียมต่างประเทศ ขณะนี้ประเทศของเรากำลังต่อสู้กับการค้าในระดับโลก เกษตรกรจึงต้องมีการพัฒนาปรับปรุงวิธีการ ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตให้ดียิ่งขึ้น รักษาสุขอนามัยการเลี้ยงสัตว์ ให้เท่ากับมาตรฐานของประเทศที่ผลิตโคนมโดยตรง ผมมั่นใจว่ากรมปศุสัตว์ จะให้การดูแล ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนแก่เกษตรกรเป็นอย่างดี ผมและข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจะทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วง มุ่งเน้นส่งเสริมและพัฒนาอาชีพด้านการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรอีกทางหนึ่งในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมอย่างยั่งยืนต่อไป และงานของรัฐบาล เป็นงานที่ต้องแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ต้องเตรียมการวางแผนและการบริหารจัดการที่ดี จึงจะทำงานประสบความสำเร็จได้ และหากเรามีความรู้สึกที่ดี มีการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของส่วนราชการทุกส่วนเสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เราก็จะทำงานด้วยรอยยิ้มและมีไมตรี พี่น้องประชาชนก็จะมีความสุข และผมก็ไม่มีวันทิ้งพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

………………………………………..