วันที่ 26 มีนาคม 2568 วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 128 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานกิจการรถไฟให้แก่ปวงชนชาวไทย โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดกรวยดอกไม้สดถวายพระราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอนุสาวรีย์พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน อดีตผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 19 รูป พิธีเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมด้วยนายศันสนะ สุริยะโยธิน กรรมการรถไฟฯ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างการรถไฟฯ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟฯ นำคณะผู้บริหารฯ เข้าสักการะอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงที่สร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงประกอบพระราชพิธีเปิดเดินรถไฟหลวงสายแรกในสยาม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2439 เส้นทางสถานีกรุงเทพ-อยุธยา และเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำนำเที่ยว ขบวนที่ 901 เส้นทางประวัติศาสตร์ จากสถานีกรุงเทพ-อยุธยา ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมากที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้
นอกจากนี้ ผู้ว่าการรถไฟฯ ยังเป็นประธานในพิธีมอบโล่และประกาศนียบัตร ให้แก่ผู้ปฏิบัติงานที่ทำงานครบ 25 ปี พร้อมแหนบที่ระลึก รางวัลพนักงานดีเด่นประจำปี 2567 และรางวัลล้อปีกรถไฟเกียรติยศ ชั้น 1, 2 และ 3 เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่องค์กร ณ บริเวณหน้าตึกบัญชาการรถไฟ
นายวีริศ กล่าวว่า การรถไฟฯ มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนภารกิจเพื่อให้การขนส่งทางรางเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่ให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ตามที่รัฐบาล และกระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญ โดยเฉพาะโครงการสำคัญของประเทศ ที่จะต้องบรรลุเป้าหมายตามที่วางไว้ อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง และระยะที่ 2 จำนวน 7 เส้นทาง ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดให้บริการแก่พี่น้องประชาชนได้เรียบร้อยแล้ว จำนวน 5 เส้นทาง อยู่ในระหว่างดำเนินการ 3 เส้นทาง และอยู่ระหว่างเตรียมการขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก 6 เส้นทาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังมุ่งมั่นยกระดับประสิทธิภาพองค์กรสู่ Smart Organization และเตรียมความพร้อมของบุคลากรในการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ที่สะดวก ปลอดภัย ตรงต่อเวลา เชื่อมโยงครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ในราคาที่เหมาะสม พร้อมที่จะขับเคลื่อนพัฒนาโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการระบบขนส่งทางรางของไทย ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และส่งเสริมการค้า การลงทุนของประเทศ ให้มีศักยภาพทัดเทียมกับนานาประเทศต่อไป