1.วันนี้ : ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
คาดการณ์ : วันที่ 13 –14 มี.ค. 68 จะมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 65% ของความจุเก็บกัก (52,659 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 49% (28,513 ล้าน ลบ.ม.)
– เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 5 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ : แม่มอก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ ลำตะคอง และสิรินธร
ภาคตะวันออก : คลองสียัด
– เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 55 แห่ง ดังนี้
ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 28 แห่ง ภาคกลาง 4 แห่ง ภาคตะวันออก 9 แห่ง ภาคตะวันตก 8 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง
สทนช. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการวางแผนการบริหารจัดการน้ำตามลำดับความสำคัญการใช้น้ำ ที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ประหยัดน้ำ และลดการสูญเสียน้ำในทุกภาคส่วนตลอดฤดูแล้ง และสร้างการรับรู้ ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน การให้ความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ
3. ประกาศแจ้งเตือน : สทนช. ประกาศเฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ ในช่วงวันที่ 10 – 13 มี.ค. 68 ดังนี้
1. จากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจไหลเข้าท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงเป็นประจำ
2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการเกษตร ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ริมแม่น้ำ ควรรักษาระดับน้ำในบ่อพักให้สูงกว่าระดับน้ำในแม่น้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มจากแม่น้ำดันไหลซึมเข้าบ่อ
ปัจจุบัน สทนช. ได้ดำเนินการติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำ พบว่า ยังไม่มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ สทนช. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์
ที่อาจจะเกิดขึ้น
4. การให้ความช่วยเหลือ : สทนช. ติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาด้านน้ำ ดังนี้
– กรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชน บ้านเอื้อม ม.1 ต.บ้านเอื้อม อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง
ที่ประสบภัยแล้งด้านการเกษตร โดยสูบน้ำจากสระเก็บน้ำสาธารณะของหมู่บ้านเข้าคลองส่งน้ำ เพื่อกระจายน้ำไปยังพื้นที่รับประโยชน์ ซึ่งสามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรได้ จำนวน 1,000 ไร่
– กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ดำเนินการเป่าล้างบ่อน้ำบาดาลและซ่อมบำรุงระบบประปาบาดาล พร้อมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ ม.9 ต.ดอนจิก อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มีน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภค
5. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน