วันที่ 10 มีนาคม 2568 เวลา 08.30 – 10.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 10 – 09 (Auditorium) ชั้น 10 อาคารกระทรวงยุติธรรม กรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม “บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการช่วยเหลือบุคคลผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ” โดยมี นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นผู้กล่าวรายงาน
บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการช่วยเหลือบุคคลผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติฉบับนี้ มีหน่วยงานร่วมลงนาม 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการและการประสานระหว่างหน่วยงาน ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหาให้บุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดอันเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้ถึงมือประชาชนโดยไม่เลือกปฏิบัติ
พร้อมกันนี้ ในพิธีดังกล่าวได้มีการมอบบัตรประจำตัวให้แก่บุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติจำนวนทั้งสิ้น 23 คน ซึ่งเป็นผลจากการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ในการลงพื้นที่ร่วมกันคัดกรองบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ รวมถึงสอบข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาสถานะให้บุคคลกลุ่มนี้ ได้รับการพัฒนาสถานะที่ถูกต้องไปตามหลักเกณฑ์และกฎหมาย
กระทรวงยุติธรรรม โดยการนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มีนโยบายอำนวยความยุติธรรมให้ถึงมือประชาชน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิที่ประชาชนสมควรได้รับตามหลักเกณฑ์และกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้สัญชาติ ที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานในการช่วยเหลือและแก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยเฉพาะ กรมการปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือในหลายพื้นที่ อาทิ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย จันทบุรี ระนอง อุบลราชธานี เพชรบุรี และอยู่ระหว่างดำเนินการในอีกหลายพื้นที่ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้ดำเนินการแก้ไขบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติให้เข้าสู่การพิจารณาแล้วจำนวน ๖,๖๔๘ ราย และมีผู้ได้รับการพัฒนาสถานะที่ถูกต้องไปตามหลักเกณฑ์และกฎหมายจำนวน 583 ราย
สำหรับการลงนาม MOU ทั้ง 7 หน่วยงาน ในครั้งนี้ เป็นการยืนยันระหว่างหน่วยงานว่าจะร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาบุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยมุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการ ภายใต้หลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอันจะทำให้การช่วยเหลือบุคคลผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียนและบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อให้บุคคลกลุ่มนี้ ได้รับสิทธิ รวมถึงการเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานต่าง ๆ ที่พึงได้รับตามกฎหมาย โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการสร้างสังคมที่ตระหนักถึงการเคารพสิทธิมนุษยชน ต่อไป