วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วน สนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาชน เช่น เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) และเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางสร้างการเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และเสริมความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ รวมถึงช่วยกันบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งในครั้งนี้ตนได้มีโอกาสมาเป็นประธานเปิดการประชุมความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนเทศบาลบ้านบ่อฝ้าย ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายเผด็จ ลายทอง รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยการกองจัดการชุมชนชายฝั่งและเครือข่าย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวง ทส. และกรม ทช. ตลอดจนองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศมนตรีเมืองหัวหิน หัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องเครือข่ายและอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าร่วมกิจกรรม จำนวนกว่า 500 คน
สำหรับเครือข่ายชุมชนชายฝั่งทั้ง 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ถือเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและได้รับผลกระทบโดยตรงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งนี้ การจัดประชุมดังกล่าวจึงเป็นเวทีกลางในการเปิดโอกาสให้เครือข่ายชุมชนชายฝั่งและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แสดงความคิดเห็นและเรียนรู้ในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 เพื่อให้ชุมชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการดูแลการอนุรักษ์และป้องกันการทำลายทรัพยากรชายฝั่งทะเลรวมถึงระบบนิเวศที่สำคัญได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมแก่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงความสำคัญของทรัพยากรชายฝั่งทะเลและผลกระทบที่เกิดขึ้นหากต้องสูญเสียระบบนิเวศชายฝั่งทะเลที่สำคัญเหล่านี้
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทุกความร่วมมือในการทำงานดูแลทรัพยากรของพี่น้องเครือข่ายฯ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์หลายประการต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศ ทั้งในระดับพื้นที่เองก็มีการทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดระหว่างพี่น้องเครือข่ายกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์การทำงานระหว่างเครือข่ายด้วยกันเอง ชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดและได้รับผลกระทบโดยตรงจากทรัพยากร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรของประเทศร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตนขอฝากถึงพี่น้องประชาชน และชาวประมงในแต่ละพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบสัตว์ทะเลหายาก หรือพบการกระทำความผิดต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถแจ้งมายังสายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่เร่งเข้าตรวจสอบ และช่วยเหลือได้ทันท่วงที ต่อไป “ดร.เฉลิมชัย รมว.ทส. กล่าวทิ้งท้าย”
ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) กล่าวว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีเครือข่ายชุมชนชายฝั่งจำนวน 748 ชุมชน มีสมาชิก 19,114 คน โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเครือข่ายชุมชนชายฝั่ง 19 ชุมชน จำนวนสมาชิก 599 คน และมีอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลทั่วปะเทศ จำนวน 30,395 คน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 972 คน โดยส่วนใหญ่เครือข่ายฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานเด่นด้านธนาคารปูม้า การทำบ้านปลา/ซั้งปลา ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และเก็บขยะชายหาด อีกทั้งยังเป็นกำลังพลสำคัญที่ช่วยเหลือภารกิจของกรมฯ ทั้งในด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ ป้องกันของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมทั้งช่วยสอดส่องดูแลสัตว์ทะเลหายาก สำหรับการจัดประชุมความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นกระบวนการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประชาชน ชุมชน จึงเป็นช่องทางในการติดต่อประสานงาน สร้างความเข้าใจ รวบรวมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ แก้ไขปัญหาและมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความร่วมมือ เกิดความสัมพันธ์เป็นเครือข่าย อสทล.อย่างใกล้ชิดและแนบแน่น จนเกิดความเข้มแข็ง มีการทำงานอย่างเป็นรูปแบบและรูปธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดมา ซึ่งภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการให้ความรู้จากหน่วยงานต่างๆ และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล การมอบโล่ผู้นำชุมชนชายฝั่งตัวอย่าง แก่นายประเสริฐ แตกช่อ ประธานกลุ่มสมาคมประมงหัวหิน (คนรักชายหาดหัวหิน) ที่ปรึกษากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง การมอบอุปกรณ์เก็บขยะแก่ตัวแทนชุมชนชายฝั่ง การมอบบัตรประจำตัวอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล แก่ตัวแทน อสทล. อีกทั้งมอบงบเงินอุดหนุนชุมชนชายฝั่ง แก่ตัวแทนชุมชนชายฝั่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสนับสนุนชุมชนชายฝั่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการบริหารจัดการปลูก บำรุงรักษา อนุรักษ์ ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยกรมฯ พิจารณาช่วยเหลือหรือสนับสนุน พร้อมกับมอบหมายให้กองจัดการชุมชนชายฝั่งและเครือข่าย โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายฯ 1-10 ทำงานร่วมกับภาคประชาชน องค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านจัดการ ดูแล รักษาและบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้เกิดความร่วมมือในการทำงานร่วมกันกับกรมฯ และประสานความร่วมมือการทำงานภายใต้กรอบความร่วมมือบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและเครือข่ายภาคีที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพอีกด้วย