อธิบดีกรมทางหลวงชนบท สั่งการสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ รับมือสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ 

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า หลังสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการเดินทางสัญจรของประชาชน ในส่วนของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จึงได้เร่งสั่งการไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในพื้นภาคใต้ ได้แก่ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 12 (สงขลา) และสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 14 (กระบี่) พร้อมด้วยแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจโครงข่ายทางหลวงชนบทที่อยู่ในความรับผิดชอบ ซึ่งหากพบว่ามีเส้นทางที่ได้รับผลกระทบให้เร่งติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยง สัญญาณไฟกระพริบ ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้เฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุดินสไลด์ หรือคอสะพานชำรุดบนถนนทางหลวงชนบท พร้อมเน้นย้ำให้จัดชุดลาดตระเวนสำรวจพื้นที่เสี่ยงเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเส้นทางและเข้าดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุ เป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้เส้นทาง ตามข้อสั่งการของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน (วันที่ 26 ก.พ. 68 เวลา 09.00 น.) พบถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสัญจรผ่านได้ จำนวน 4 สายทาง ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ได้แก่

1. ถนนทางหลวงชนบทสาย พท.1015 แยก ทล.4 – บ้านศาลาเม็ง อำเภอเขาชัยสน, กงหรา (ช่วง กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 0+200) ระดับน้ำสูง 20 ซม.
2. ถนนทางหลวงชนบทสาย พท.1002 แยก ทล.4 – บ้านคู อำเภอเมือง, กงหรา (ช่วง กม.ที่ 2+500 ถึง กม.ที่ 3+400 ระดับน้ำสูง 30 ซม.) และ (ช่วง กม.ที่ 4+800 ถึง กม.ที่ 6+200 ระดับน้ำสูง 20 ซม.)
3. ถนนทางหลวงชนบทสาย พท.1005 แยก ทล.4 – บ้านไสแตระ อำเภอศรีนครินทร์, กงหรา (ช่วง กม.ที่ 2+300 ถึง กม.ที่ 2+350)
4. ถนนทางหลวงชนบทสาย พท.2038 แยก ทล.41 – วัดเต่า อำเภอเมือง (ช่วง กม.ที่ 1+700 ถึง กม.ที่ 1+800) ระดับน้ำสูง 10 ซม.

อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรให้กับพี่น้องประชาชน ยังได้สั่งการเพิ่มเติมไปยังสำนักงานทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อุทกภัยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ทช. จะรายงานสถานการณ์ให้ประชาชนได้รับทราบเป็นระยะ และขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายเตือน โดยสามารถแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศหรือติดต่อสายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146