รมว.พม.-ภริยา นำคณะคู่สมรส ออท.ประจำประเทศไทย เยี่ยมชม งานฝึกอาชีพ พัฒนาศักยภาพสตรีไทย โชว์เมนู ผัดไทย-ต้มข่าไก่-ข้าวเหนียวมะม่วง

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา ภริยา ให้การต้อนรับ นาง ทาลา ดิโอนิซิ คู่สมรสของเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย และคณะคู่สมรสของเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ในโอกาสเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว คณะผู้บริหารกระทรวง พม. ร่วมให้การต้อนรับ

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจสำคัญในการเสริมพลังสตรี ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรี อีกทั้งส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เพื่อร่วมพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนงานตามพันธกิจสำคัญ (Flagships) ด้านที่ 3 สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง ที่เป็นสตรีที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม อาทิ สตรีที่ยากจน มีรายได้น้อย ด้อยโอกาส ขาดการศึกษา ถูกกระทำความรุนแรง ถูกละเมิด และแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวง พม. มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่สตรี และครอบครัว ผู้ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการจัดบริการสวัสดิการสังคม การช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ด้วยจัดการเรียนการสอนหลักสูตรการฝึกอาชีพที่หลากหลายสอดคล้องกับบริบทสถานการณ์และความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ต้อนรับ นาง ทาลา ดิโอนิซิ และคณะคู่สมรส พร้อมพาเยี่ยมชมหลักสูตรการฝึกอาชีพและการให้บริการต่างๆ ของศูนย์ฯ ได้แก่ แผนกเสริมสวยสตรี ได้พาเยี่ยมชมการสาธิตสปาผม ตัดผม สระไดร์ พันแกนแฟชั่น ดัดดิจิตอล และทำสีผม ซึ่งมีการเปิดอบรมหลักสูตร ช่างแต่งผมสตรี 300 ชั่วโมง และมีการออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อฝึกปฏิบัติงานจริงในการให้บริการตัดผมฟรีแก่กลุ่มเปราะบางและประชาชนทั่วไป เมื่อผ่านการฝึกอบรม จะได้รับวุฒิบัตร และจะมีการติดตามผลการทำงาน

อีกทั้งได้พาเยี่ยมชมแผนกนวดแผนไทย โดยมีการสาธิตนวดผ่อนคลาย คอ บ่า ไหล่ และนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ โดยศิษย์เก่าและปัจจุบันที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง และหลักสูตรนวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ 60 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 2 หลักสูตรได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และได้รับวุฒิบัตรทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปยื่นขอใบรับรองขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จากกระทรวงสาธารณสุขที่ถูกต้องตามกฎหมาย

จากนั้นคณะคู่สมรสได้ลองประกอบอาหารไทย 3 เมนู ได้แก่ ผัดไทย ต้มข่าไก่ และข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งทั้ง 3 เมนู เป็นสูตรอาหารจากสถาบันการอาหารไทย (Thai Cuisine Academy) โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร และมีการพาเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากกลุ่มอาชีพ ซึ่งเป็นตัวอย่างของบุคคลและผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ จากการรับการฝึกอาชีพจากศูนย์ฯ