นายพงษ์ศักดิ์ บุญเป็ง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ (สำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดเชียงใหม่) เปิดเผยถึง การดำเนินการสำรวจเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษา (Zero Drop Out) ของสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการได้ลงนามข้อตกลงกับ 11 หน่วยงานภายใต้โครงการ ‘Thailand Zero Dropout’ เพื่อแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีข้อมูลตามหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและพากลับเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นผลจากการมอบนโยบายของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 โดยตัวเลขเด็กหลุดจากระบบที่กระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดมีมากกว่า 100,000 คน โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาความยากจนของครอบครัวที่ผลักให้เด็กต้องออกจากการเรียนเพื่อไปทำงานหาเงินแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ดังนั้น สำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ดำเนินการตามนโยบายของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการสำรวจค้นหาเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีโจทย์ในการปฏิบัติงาน คือ จะทำอย่างไรให้ผู้หลุดจากระบบการศึกษาเป็นศูนย์ จึงมอบหมายให้ สกร.ระดับอำเภอแม่แตง เป็นพื้นที่นำร่องดำเนินการสำรวจข้อมูลเด็กหลุดจากระบบการศึกษา รายงานผล และส่งต่อตามความประสงค์ของผู้เรียน
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินงานสำรวจครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ลงพื้นที่เก็บข้อมูลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยประชากรแฝงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่มีสัญชาติไทย และเป็นชาวต่างชาติ อาทิ จีน ไทยใหญ่ เมียนม่า เป็นต้น ผลจากการสำรวจเด็กและเยาวชนที่หลุดจากระบบการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอ พบว่า มีจำนวนผู้ที่หลุดจากระบบการศึกษา อายุระหว่าง 6 – 18 ปี จำนวน 16,833 คน แยกเป็นเพศชาย 8,760 คน (52%) เพศหญิง 8,073 คน (48%) พบตัว 5,491 คน (กำลังศึกษา 4,690 คน ไม่เคยศึกษา 603 คน และเคยศึกษา198 คน) และไม่พบตัว 11,342 คน ฉะนั้นสิ่งที่จะดำเนินการต่อไปกับบุคคลที่พบตัว ทั้งเคยศึกษา และไม่เคยศึกษา คือการสอบถามความประสงค์ที่ต้องการให้สนับสนุน ได้แก่ ไม่ประสงค์รับความช่วยเหลือ ประสงค์ให้สนับสนุนด้านอุปโภค สนับสนุนด้านการศึกษา สนับสนุนด้านสุขภาพ และสนับสนุนด้านส่งเสริมทักษะอาชีพ สำหรับบุคคลที่ไม่พบตัว จะเร่งค้นหาให้มากทึ่สุด และจัดทำแนวทางพร้อมกับหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป