วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.00 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “การประสานความร่วมมือในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟู การจัดการศึกษา การฝึกทักษะอาชีพ และการดูแล ช่วยเหลือสงเคราะห์ภายหลังปล่อย ระหว่าง กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมสรรพากร มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล และบริษัท กู๊ดเทค (ไทยแลนด์) จำกัด” โดยมี พลอากาศเอก สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ 904 กรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 รองประธานคณะกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามฯ และมีพันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร นายพงศ์เทพ เพชรโสม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวัฒม์ วงษ์ชวลิตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยวงษ์ขวลิตกุล และนางภิรมย์รัช เปาริก ประธานบริษัท กู๊ดเทค (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้ลงนามฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ ณ ห้องประชุมสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
โอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุขฯ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ว่า “ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเห็นความสำคัญและรับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ โดยดำเนินงานสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขภาพ 2) ด้านการบำบัดฟื้นฟู และ 3) ด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพ ที่ผ่านมา กรมพินิจฯ ได้ให้ความสำคัญในการด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนมาโดยตลอด และปรับจากสถานพินิจที่ถูกมองว่าเป็นสถานที่ควบคุมให้กลายเป็นสถานที่ฝึกอบรมเพื่อฟื้นฟูเด็กและเยาวชน และพัฒนาให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาและฝึกอาชีพ ซึ่งการลงนามบนทึกความเข้าใจในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการช่วยกันบำบัดและฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดและที่เป็นผู้ติดยาเสพติด ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาและการประกอบอาชีพ เพื่อให้เด็กและเยาวชนกลุ่มนี้กลายเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ เป็นคนดีของครอบครัว เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของบ้านเมือง และสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพภายหลังพ้นโทษ”
สำหรับความร่วมมือดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพินิจฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ‘กรมสรรพากร’ ในด้านการกำหนดมาตราการทางภาษีแก่ผู้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการรับเด็กและเยาวชนเข้าฝึกปฎิบัติงานและการจ้างเยาวชนที่พ้นจากการปล่อยตัว ‘กรมสวัสดิการและแรงงาน’ ในการควบคุมกำกับมาตราฐานและสวัสดิการของแรงงานเยาวชนในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองและสวัสดิภาพในการใช้ชีวิตของเยาวชนภายใต้กฎหมายแรงงานที่เกี่ยวข้อง ‘มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล’ ในด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา โดยการจัดหลักสูตรของพยาบาลและการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อทำให้เด็กและเยาวชนมีทักษะวิชาชีพที่ดีและเพิ่มโอกาสในการทำงานหลังจากกลับคืนสู่สังคม และ ‘บริษัทกู๊ดเทค (ไทยแลนด์)’ ในด้านการจัดกิจกรรมเพื่อบำบัดฟื้นฟูและศูนย์ฝึกฯ อบรมโดยการรับเข้าฝึกปฎิบัติงานในสถานประกอบการ รวมถึงบ้านกึ่งวิถี (Halfway house) ในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย นับเป็นก้าวสำคัญของการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูและพัฒนาพฤตินิสัยเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกปฏิบัติงานของเด็กและเยาวชนในสถานประกอบการ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพที่สุจริตแก่เด็กและเยาวชนให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข ซึ่งบันทึกความเข้าใจทั้ง 4 ฉบับจะเป็นจุดเริ่มต้นในการดำเนินงานเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับการพัฒนา ดูแล ในทุกมิติทั้งทางกายและใจ รวมถึงเป็นการสร้างความพร้อมในการใช้ชีวิตในสังคมด้วยการให้การศึกษาและอาชีพ
ต่อมา เวลา 11.30 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุขฯ พร้อมด้วยกรมวังผู้ใหญ่ และคณะผู้บริหาร เป็นผู้แทน “รับมอบคอมพิวเตอร์จากวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ จำนวน 60 ชุด มูลค่า 300,000 บาท” โดยมี นายวิเชียร เนียมน้อม ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตและผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ พร้อมด้วย ดร.ธเรศวร์ ธนะสมบูรณ์ ที่ปรึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ เป็นผู้แทนมอบ จากนั้น องคมนตรี และคณะ รับมอบ “เล่มแนวทางการประเมินมาตรฐานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมสุขภาพสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานที่ควบคุม” โดยมี แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เป็นผู้แทนมอบ ทั้งนี้ คอมพิวเตอร์และเล่มแนวทางดังกล่าวจะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านบริการการแพทย์ทางไกล ภายใต้ “โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ของกรมพินิจฯ เพื่อให้เด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรมได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนและรอบด้านต่อไป