ในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้ชื่องาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้” โดยมี นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายอับดุลเราะมัน มอลอ โฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยนายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม นายเฉลิมชัย บัวจันอัด รองอธิบดีกรมบังคับคดี นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เข้าร่วมฯ ณ ห้องสมิหลา แพรนด์บอลรูม โรงแรมบีพี สมิหลาบีช จังหวัดสงขลา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่น แก้ปัญหาประชาชนเรื่องหนี้ครัวเรือน หนี้สินของประชาชน เป็นเรื่องเร่งด่วน รัฐบาลมีความจริงใจที่จะลดภาระหนี้ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี การลดภาระหนี้ คือ การไกล่เกลี่ย การไกล่เกลี่ยคือ การปรับโครงสร้างหนี้ เป็นการไกล่เกลี่ยที่ให้เจ้าหนี้อยู่ได้ มีกำไรน้อยหน่อยหรือเสมอตัว และลูกหนี้อยู่ได้อย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี นี่คือเป้าหมายของมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ให้มีอยู่ มีกิน มีใช้ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญ
วันนี้เป็นวาระสำคัญของรัฐบาลที่มาประชุมที่สงขลา อยากจะส่งสารโดยเฉพาะหนี้ กยศ. มีลูกหนี้อยู่ 7,000,000 กว่าคน ผู้ค้ำอีก 7,000,000 กว่าคน รวม 14,000,000 คน ได้รับรู้ว่าอย่างน้อยที่สุดรัฐบาลจะมาลดภาระหนี้ คือไม่ได้ยกหนี้ให้แต่ลดภาระหนี้ แต่เพื่อให้เงินที่ต้องชำระหนี้ กยศ. ทั้งเบี้ยปรับ หรือดอกเบี้ย ให้นำเงินก้อนนี้กลับไป ให้มีอยู่ ให้มีกิน และให้มีใช้ เราหวังว่ารัฐบาลต้องสร้างเศรษฐกิจให้เงินในกระเป๋าประชาชนมากขึ้น และต้องลดภาระหนี้ไปพร้อมกัน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา จำนวน 8 ราย พร้อมเยี่ยมชมบูธหน่วยงานต่าง ๆ และพบปะประชาชนที่มาร่วมภายในงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมไกล่เกลี่ยให้กับผู้เข้าร่วมมหกรรมฯ ในครั้งนี้ โดย 1 รายเป็นกรณีเช่าซื้อรถยนต์ โดยรถที่เช่าซื้อไปนั้นประสบอุบัติเหตุไม่สามารถใช้งานได้ วันนี้จึงต้องการมาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งสถาบันการเงินที่ร่วมการไกล่เกลี่ยนั้นได้ปรับลดให้จำนวนมาก แต่ในการชำระนั้นต้องขายที่ดินเพื่อชำระหนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงได้มอบหมายให้สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลาช่วยเหลือกรณีดังกล่าว ในการหาทางออกโดยที่ไม่ต้องเสียที่ดินทำกินไป
สำหรับการจัดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้” ในครั้งนี้ กรมบังคับคดีได้กำหนดให้จัดขึ้นตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มุ่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เร่งแก้ปัญหาและช่วยเหลือประชาชนในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินจาก กยศ. และผู้ที่มีหนี้สินจากสถาบันเจ้าหนี้ต่าง ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต กู้ยืมเงิน จำนอง ค้ำประกัน เช่าซื้อ เป็นต้น ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สิน และปรับโครงสร้างหนี้กับผู้แทนของ กยศ. และตัวแทนสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยหากการไกล่เกลี่ยเป็นผลสำเร็จจะช่วยให้ลูกหนี้ได้มีโอกาสผ่อนชำระหนี้ได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี และช่วยให้ไม่ต้องถูกบังคับคดียึดทรัพย์หรือขายทอดตลาดหรือหากคดีอยู่ระหว่างการบังคับคดี ก็สามารถงดการบังคับคดีไว้ชั่วคราว หรือถอนการบังคับคดีต่อไปได้
โดยในการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยครั้งนี้ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา ได้ออกหนังสือเชิญลูกหนี้เพื่อให้มาร่วมโครงการ และมีสถาบันการเงินเจ้าหนี้เข้าร่วมโครงการเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้ ทั้งหมด 11 สถาบัน