สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 3 – 9 กุมภาพันธ์ 2568

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทาง โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.15 จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวตลาดรัสเซีย และนักท่องเที่ยวตลาดฝรั่งเศส ที่เพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 41.53 จากกิจกรรมส่งเสริมตลาด จำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น และการเข้าสู่ช่วง School holiday ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ชะลอตัวด้านการเดินทางภายหลังสิ้นสุดเทศกาลตรุษจีน รวมถึงผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในหลายปัจจัยของนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ จากสถานการณ์ภายในประเทศเกาหลี อาทิอุบัติเหตุทางอากาศ การเมือง ค่าเงิน ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 837,407 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 109,551 คน หรือร้อยละ 11.57 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 119,630 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย (134,912 คน) จีน (114,930 คน) รัสเซีย (55,948 คน) เกาหลีใต้ (41,579 คน) และอินเดีย (37,406 คน) โดยนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย และรัสเซีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 11.75 และร้อยละ 1.06 ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าร้อยละ 35.37 ร้อยละ 21.01 และร้อยละ 9.42 ตามลำดับ

สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทรงตัว จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬา การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

สําหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 10 ก.พ. 68 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 9 ก.พ. 68 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 4,804,876 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 234,958 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (825,617 คน) มาเลเซีย (617,631 คน) รัสเซีย (330,628 คน) เกาหลีใต้ (263,572 คน) และอินเดีย (232,828 คน)