5 กุมภาพันธ์ 2568 – นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เผยความห่วงใยของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา ย้ำชัดเจนยุคนี้ฟันโทษวินัยร้ายแรงจริงจัง พบการกระทำผิดร้ายแรงไล่ออกถอดใบประกอบวิชาชีพสถานเดียว วอนช่วยกันดูแลให้ทุกพื้นที่ในสถานศึกษาเป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้เรียนและครู
โฆษก ศธ. กล่าวว่า จากข่าวปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษาที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้นิ่งนอนใจและต้องการสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินการจัดการเร่งด่วน ที่คำนึงถึงความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดบาดแผลทางร่างกายแต่ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจและการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนในระยะยาว
แน่นอนว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เด็กหรือครูหลายคนไม่กล้าเปิดเผยเพราะเกิดความกลัวหรือความอับอาย ทำให้ปัญหานี้อาจไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที มาตรการป้องกันที่ทำได้เลยตอนนี้คือครูคอยสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากพบว่าเด็กวิตกกังวลที่ผิดปกติ หลีกเลี่ยงจากเพื่อนและกิจกรรมหรือมีสัญญาณการถูกล่วงละเมิด ควรพูดคุยและให้คำปรึกษาอย่างอ่อนโยนเพื่อเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และหากปัญหานั้นเกินรับมือสามารถประสานนักจิตวิทยาในพื้นที่ เพื่อการช่วยเหลือที่รวดเร็วและเหมาะสม
นอกจากนี้โรงเรียนควรมีการจัดอบรมสร้างความเข้าใจเรื่องการล่วงละเมิดให้กับครูและนักเรียน และมีนักจิตวิทยาสนับสนุนด้านจิตใจพร้อมให้คำปรึกษาแก่เด็ก เพื่อช่วยเหลือให้เด็กได้รับการฟื้นฟูจิตใจเร็วขึ้น ที่สำคัญคือต้องสร้างระบบช่องทางการรายงานที่ปลอดภัยไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองสามารถแจ้งเหตุการณ์ล่วงละเมิดได้อย่างมั่นใจว่าจะได้รับการจัดการอย่างถูกต้องและเป็นความลับ
หากเราร่วมกันดูแลช่วยเหลือนักเรียนและครูให้ได้รับการปกป้องจากการล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่ต้นทาง จะสร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความอบอุ่น ให้โอกาสพวกเขามีชีวิตที่ดีและเติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง เป็นเรื่องสำคัญที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันทำให้ผู้เรียนไม่รู้สึกว่าถูกทิ้งเพียงลำพัง ยังมีครูและเพื่อนเป็นเกราะป้องกันและคอยเสริมกำลังใจ
ขอให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาพึงระลึกอยู่เสมอว่ากว่าจะฝ่าฟันมาอยู่ในหน้าที่การงานจุดนี้ต้องใช้ความพยายามมากมายแค่ไหน อย่าทำให้กระทำไม่เหมาะสมเพียงชั่ววูบมาตัดอนาคตและทำร้ายผู้อื่นผ่านทางร่างกายและจิตใจ และอย่าเพิกเฉยการกระทำอันไม่เหมาะสม หากกรณีใดพบว่ามีความผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ต้นสังกัดพร้อมที่จะลงโทษทางวินัยร้ายแรงอย่างเด็ดขาด และคุรุสภาพร้อมที่จะพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภทเช่นกัน
“กระทรวงศึกษาธิการจะไม่ปล่อยผ่านปัญหาล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ต้องปลอดภัยส่งเสริมให้เด็กเติบโตไปอย่างมีความสุข และขอย้ำชัดเจนว่าหากพบการกระทำผิดจะลงโทษวินัยร้ายแรงอย่างถึงที่สุด” โฆษก ศธ. กล่าว