นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของระบบสังคม เศรษฐกิจภายในประเทศ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร การส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนที่ประกอบกิจการแปรรูปสินค้าเกษตรให้เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรที่มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาในระดับแข่งขันได้นั้น ถือเป็นความท้าทายของกรมส่งเสริมการเกษตรในการพัฒนาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานวิสาหกิจชุมชนในทุกระดับให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน ทั้งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์สินค้าเกษตรแปรรูป การสร้างคอนเทนต์การตลาดออนไลน์การบริหารจัดการด้านการเงินสำหรับธุรกิจการเกษตร ตลอดจนการให้คำปรึกษาด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดการอบรมพัฒนาทักษะเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานกิจกรรมส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่ม ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานฯ ในระดับส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 100 คน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติงาน ถ่ายทอดและให้คำแนะนำแก่วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจัดให้มีการบรรยายให้ความรู้และฝึกปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1) การใช้ AI ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน (Community Enterprise Product Development with AI) 2) การสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปสินค้าเกษตรไปสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน และ 3) การบริหารจัดการด้านการเงินในธุรกิจเกษตร (Financial Literacy for Agricultural Business) การวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต การกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ และการวางแผนการเงินเพื่อบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งความรู้ดังกล่าวจะช่วยให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรโดยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตผลทางการเกษตรและทรัพยากรในชุมชน และสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชน ส่งผลให้ให้วิสาหกิจชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ เป็นการรวมกลุ่มของคนในชุมชนและนำความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น และทรัพยากรที่มีอยู่มาสร้างสินค้าและบริการ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยในปี พ.ศ. 2567 กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรให้แก่วิสาหกิจชุมชนทำให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมโครงการ จำนวน 18.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29 และมีมูลค่าสินค้าเกษตรแปรรูปเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.4