นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว. วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เตรียมจัดกิจกรรมอีเวนต์และเฟสติวัลหลากหลายและครอบคลุมในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “7 Wonders of Thailand” ตามนโยบาย Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ร่วมกับจังหวัดสกลนคร หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้จัดงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ค.ศ.2024 จังหวัดสกลนคร ในระหว่างวันที่ 20-26 ธันวาคม 2567 เป็นการส่งเสริม Soft Power ในมิติศาสนาศาสนา ภายใต้โครงการ “เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของกิจกรรมใน 7 หมวดหมู่ ได้แก่ เทศกาลลอยกระทง เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ไปจนถึงการขึ้นปีใหม่แบบไทยด้วยการสวดมนต์ข้ามปีและการทำบุญตักบาตร เทศกาลดนตรี กีฬา อาหาร วัฒนธรรม และเทศกาลแสงสี (Lighting & Illumination) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2567 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ในมิติเทศกาลและศาสนาในช่วง High Season ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริมวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนคร สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว. วธ.) กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ค.ศ.2024 จังหวัดสกลนคร เพื่อเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า และส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสกลนครในมิติศาสนา และวัฒนธรรม โดยการนำ Soft Power ของจังหวัดสกลนคร โดยมีกิจกรรม ดังนี้
วันที่ 21 ธ.ค. 67 กิจกรรมท่าแร่แล่นเด้อ “Night Color Run 2024” ณ หมู่บ้านท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เชิญนักวิ่งมา “สนุกกับแสงสี นครแห่งดวงดาว” มีกิจกรรมที่จะเพิ่มสีสันให้สนุกกับการวิ่งมากมาย เช่น การเพนท์สีเรืองแสงบนร่างกาย จุดเช็คอินถ่ายภาพแสงสี กิจกรรมแฮนด์เมดสีสัน และกิจกรรมอื่นๆ
วันที่ 22 ธ.ค. 67 กิจกรรม “สีสันแห่งหนองหาร” การแห่ดาวทางน้ำ การแสดงแสง สี เสียง การแสดงละครประวัติบ้านท่าแร่ และการบังเกิดของพระเยซูเจ้า ณ สวนสาธารณะดอนเกิน ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
วันที่ 23 ธ.ค.67 กิจกรรม “มหัศจรรย์แห่งดวงดาว สุกสกาวความสุข” ร่วมชมพิธีปล่อยขบวนรถแห่ดาว ณ ศาลามาร์ติโนท่าแร่ แห่ไปตามเส้นทางถนนสายหลัก รอบชุมชนท่าแร่ จนถึง บริเวณอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร
วันที่ 24 ธ.ค.67 กิจกรรมชมขบวนแห่ดาวเล็กแบบดั้งเดิม (ดาวมือถือ) ณ บริเวณศาลามาร์ติโนท่าแร่ เข้าสู่อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร
25 ธ.ค.67 พิธีเปิดงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ค.ศ.2024 โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถแห่ดาว คริสต์มาสประดับไฟหลากสี (แห่ดาวใหญ่) พร้อมทั้งพระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมขึ้นรถบุษบกแห่ดาวคริสต์มาสเดินทางร่วมไปกับขบวนรถแห่ดาวคริสต์มาส ไปยังบริเวณอาสนวิหาร อัครเทวดามีคาแอลท่าแร่ โรง
เรียนเซนต์ยอแซฟสกลนคร อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน กิจกรรมการประกวดภาพถ่ายงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส การประกวดคลิปวิดีโอเส้นทางการท่องเที่ยวในมิติศาสนาของจังหวัดสกลนคร การประกวดชุดคอสเพลย์ ทั้งประเภทเดี่ยวและประเภททีม และร่วมกิจกรรมลานวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 20-24 ธ.ค. 67 เป็นต้นไป ขอเชิญชวนศาสนิกชน และนักท่องเที่ยวชมบูธการจัดแสดง สาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกที่ต่อยอด พัฒนาผลิตภัณฑ์เนื่องในงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่น CPOT, CCPOT รวมถึง อุดหนุนสินค้าและอาหารขึ้นชื่อ ชมโบราณสถานของหมู่บ้านคริสต์ที่มีอายุยานานกว่าร้อยปี ชมดนตรีวาไรตี้ และชมผลงานศิลปะ Street Art ณ บริเวณถนนคนเดินชมดาว ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร และระหว่างวันที่ 25 – 26 ธ ค.67 ชม ชิม ช้อป แชะ สินค้าและการแสดงสีสันดวงไฟถ่ายภาพเช็คอิน ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 จ.สกลนคร
การจัดงานประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส ค.ศ.2024 จังหวัดสกลนคร เพื่อฉลองการบังเกิดของพระเยซู และขอบคุณที่พระองค์นำแสงสว่างและความรอดพ้นมาสู่มวลมนุษย์ ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น เป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามศาสนา อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันศาสนาให้เป็นเสาหลักที่จะสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณธรรม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเทศกาลในมิติทางศาสนา ยกระดับเทศกาลประเพณีให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เกื้อหนุนชุมชนเพื่อประชาสัมพันธ์และดึงดูดการท่องเที่ยวในการกระตุ้นเศรษฐกิจของท้องถิ่นและจังหวัดสกลนคร และเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย