1.สภาพอากาศวันนี้ : บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาวตอนบนในวันนี้ หลังจากนั้นจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะถัดไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
คาดการณ์ : ในวันที่ 19 – 23 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 80% ของความจุเก็บกัก (64,525 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 70% (40,310 ล้าน ลบ.ม.)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 3 แห่ง ดังนี้
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ สิรินธร และลำตะคอง
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำสูงกว่าระดับน้ำควบคุมสูงสุด 1 แห่ง ดังนี้
– ภาคใต้ : บางลาง
3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (17 ธ.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเป็นประธานในการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล ชุมพร พัทลุง ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ โดยการประชุมครั้งนี้ จ.นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี สงขลา และนราธิวาส ซึ่งเป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ ได้รายงานสถานการณ์และความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนทั้งด้านที่อยู่อาศัย สุขาภิบาล และการดำรงชีพเบื้องต้นให้เพียงพอและเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประสบภัยที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก และผู้ป่วย รวมถึงดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัย พร้อมจัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราวที่พร้อมรองรับผู้ประสบภัยให้เพียงพอ และเร่งฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ระบบไฟฟ้า น้ำประปา รวมไปถึงเส้นทางคมนาคมที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ในด้านการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้จังหวัดเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบเงินทดรองราชการฯ และการให้ความช่วยเหลือกรณีพิเศษตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 ในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ครัวเรือนละ 9,000 บาท และให้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัยสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับเงินช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด สำหรับการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย ขอให้หน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบสถานการณ์และเตรียมการอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งขอให้ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำความเข้าใจกับประชาชนให้อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ทันทีหากมีการแจ้งเตือนให้อพยพ เพื่อลดผลกระทบและความสูญเสียให้ได้มากที่สุด
5. สถานการณ์อุทกภัย : พื้นที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ณ วันที่ 18 ธ.ค. 67 จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง ประชาชนได้รับผลกระทบ 182,203 ครัวเรือน