สทนช.ติดตามฝนตกหนักภาคใต้ระลอกใหม่ บูรณาการหน่วยงานเร่งให้การช่วยเหลือประชาชน

“รองเลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักภาคใต้ระลอกใหม่ คาดการณ์สามทุ่มคืนนี้ หลายชุมชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะได้รับผลกระทบน้ำท่วม พร้อมสั่งบูรณาการหน่วยงานเร่งเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที

วันที่ 14 ธันวาคม 2567 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช. เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ จ.นครศรีธรรมราช และลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณสถานี X.275 (หน้าเมือง) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) และรองนายกรัฐมนตรี (นายประเสริฐ จันทรรวงทอง) ต่อสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในห้วงที่ผ่านมา โดยได้สั่งการให้ สทนช. เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่างและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักและหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 12-14 ธ.ค. 67 โดยปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพร (อ.ทุ่งตะโก อ.สวี อ.เมือง อ.ปะทิว และ อ.หลังสวน) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.ท่าชนะ และ อ.ท่าฉาง) จ.นครศรีธรรมราช (อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองฯ อ.ปากพนัง อ.เชียรใหญ่ และอ.พระพรหม) และ จ.ระนอง (อ.กระบุรี)

“โดยเฉพาะที่ จ.นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในคลองท่าดี อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่ง จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่าอย่างใกล้ชิด คาดการณ์ว่า วันนี้ (14 ธ.ค. 67) เวลาประมาณ 21.00 น. ปริมาณน้ำจากต้นน้ำคลองท่าดีที่ไหลมาสมทบคลองนครน้อย จะส่งผลต่อพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น ชุมชนที่จะได้รับผลกระทบ ต.ไชยมนตรี หมู่ 5 ต.มะม่วงสองต้น หมู่ที่ 2 ชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนท่าช้าง ชุมชนหน้าสถานนีรถไฟสะพานยาว ชุมชนสะพานรถไฟนอกโคก และบางส่วนของชุมชุนมุมป้อม ชุมชนท่าช้าง ชุมชนลูกแม่อ่างทอง ชุมชนเทวบุรี คลองห้วย ชุมชนป่าโล่ง” รองเลขาธิการ สทนช. กล่าว

รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัด อำเภอ ทหาร ตำรวจ จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิต่างๆ ได้เข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยเฉพาะการอพยพกลุ่มผู้เปราะบางและสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ เรือ และรถตรวจการณ์เฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ การคาดการณ์จากฝน One Map ยังพบว่า ในช่วงวันที่ 14-16 ธ.ค. 67 จะยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยหลังนั้นจะมีแนวโน้มลดลง และเข้าสู่สภาวะปกติใน 2-3 วัน

“ที่ประชุมวันนี้ได้มีมติมอบหมายให้ สทนช.ประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อนำไปซ้อนทับกับข้อมูลผังน้ำ สำหรับใช้คาดการณ์พื้นที่น้ำท่วมในระดับตำบล และมอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม บริเวณเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ และกรมชลประทาน ระดมเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เรือ เครื่องสูบน้ำ และบุคลากร เพื่อเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.ชุมพรและนครศรีธรรมราช ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เตรียมข้อมูลการระบายน้ำของเขื่อนบางลางในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หากต้องเปิดทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ (spillway) รวมทั้ง สทนช. จะได้เตรียมประสานกรมทางหลวง เพื่อขอข้อมูลเส้นทางสัญจรที่ถูกน้ำท่วม เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบอีกช่องทางหนึ่งด้วย” รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวในตอนท้าย