นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ทุกภูมิภาคของไทยเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนทั้งเรื่องฝนตกและน้ำท่วมขัง ทำให้สัตว์มีภูมิคุ้มกันโรคลดต่ำลง เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ กรมปศุสัตว์จึงต้องบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค ASF ในสุกรอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งหน่วยงานของกรมปศุสัตว์ร่วมมือกับภาคเอกชน และชุมชน ลงพื้นที่สำรวจฟาร์มเกษตรกรรายย่อยโดยใช้แอพพลิเคชั่น e-Smart Plus (อี-สมาร์ทพลัส) เพื่อจัดทำแผนที่เกษตรกรรายย่อยในประเทศ และประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ทันที ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกรมปศุสัตว์ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา ควบคู่กับการยกระดับระบบป้องกันโรคในฟาร์มของเกษตรกร
“กรมปศุสัตว์ ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจฟาร์มของเกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา นำแอพพลิเคชั่น อี-สมาร์ทพลัส ช่วยประเมินความเสี่ยงไปแล้วกว่า 66,500 ฟาร์ม คิดเป็นร้อยละ 60 ของเป้าหมาย และจะทำแผนที่ให้ครบทุกจังหวัดภายในสิ้นปีนี้” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว
ระบบอีสมาร์ทพลัส ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น เพียงบันทึกข้อมูลในมือถือหรือแท็บเล็ต ก็สามารถทราบผลทันที ทำให้การวางแผนเฝ้าระวังและป้องกันโรค ASF มีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อย เข้ามาเป็นเครือข่ายในการแจ้งข่าวสารและป้องกันโรค ASF ให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มีการรายงานพบโรคดังกล่าวในไทย
ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ได้รับความร่วมมือที่ดีจากภาคเอกชน รวมถึงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดต่างๆ ในการยกระดับการป้องกันฟาร์มให้เคร่งครัด แม้ว่าฟาร์มของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งหมดเป็นฟาร์มระบบปิดและมีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดอยู่แล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนยังสนับสนุนงบประมาณและกำลังคน ช่วยให้การป้องกันโรค ASF ในประเทศไทยเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของเกษตรกรรายย่อย กรมปศุสัตว์ขอความร่วมมือในการปรับปรุงฟาร์ม และกำจัดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น การปรับปรุงรั้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อื่นๆ เข้าในฟาร์ม การไม่นำเศษอาหารมาใช้เลี้ยงสุกร การฆ่าเชื้อก่อนนำเครื่องมือหรือยานพาหนะเข้าสู่ฟาร์ม การห้ามบุคคลภายนอกเข้าฟาร์ม การไม่เอาสุกรป่วยหรือตายออกนอกฟาร์ม รวมทั้ง ติดตามข้อมูลจากกรมปศุสัตว์ ตลอดจนไม่ตื่นตระหนก หรือหลงเชื่อข่าวลือต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในการผลิตสุกรอย่างต่อเนื่อง และผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารมากยิ่งขึ้น
—————————————–
ข้อมูล/ข่าว : คณะทำงานโฆษกกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (10 กันยายน 2562)