รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้แทนประเทศไทยเข้ารับรางวัล ASOCIO Awards 2024 จำนวน 2 สาขา ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผ่านผลงานด้านไอที “Financial Data Hub – Health Rider” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพ สอดรับนโยบาย “รัฐมนตรีสมศักดิ์” มุ่งยกระดับบริการสุขภาพของประเทศไทย
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่โรงแรม ANA Intercontinental กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้แทนประเทศไทย เข้ารับรางวัล ASOCIO Awards 2024 จำนวน 2 สาขา ได้แก่ สาขา HealthTech Award in Public Sector โดยกองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ จากโครงการ Financial Data Hub และสาขา Environmental, Social & Governance: ESG Award in Public Sector โดยสำนักงานสุขภาพดิจิทัล จากโครงการ Health Rider ภายในงานประชุม ASOCIO Digital Summit 2024 จัดโดยสมาพันธ์ ASOCIO (Asian-Oceanian Computing Industry Organization) ที่ประกอบด้วยสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและบริการ จาก 24 ประเทศในภาคพื้นเอเชียโอเชียเนีย ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567
นพ.วีรวุฒิกล่าวว่า การรับรางวัล ASOCIO Awards 2024 ทั้ง 2 สาขาดังกล่าว เป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพของประเทศไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ความภาคภูมิใจแต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกคนด้วยเทคโนโลยี โดย Financial Data Hub เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงินของกระทรวงสาธารณสุข ที่เชื่อมข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับสิทธิการรักษาพยาบาลของประชาชน นำมาสู่การวิเคราะห์ วางแผน และบริหารจัดการข้อมูลด้านการเงินในระบบสุขภาพที่ชาญฉลาด ช่วยให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประโยชน์สูงสุด ขณะที่ Health Rider เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วจัดส่งยา/เวชภัณฑ์จำเป็นให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน ช่วยให้การเข้าถึงบริการสุขภาพเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นพ.วีรวุฒิกล่าวต่อว่า การดำเนินงานทั้ง 2 โครงการ ยังสอดรับกับนโยบายสำคัญปี 2568 ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มีเป้าหมาย “ยกระดับการสาธารณสุขไทย สุขภาพแข็งแรงทุกวัย เศรษฐกิจสุขภาพไทยมั่นคง” และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำนโยบายด้านสุขภาพดิจิทัลมาปฏิบัติจริง ภายใต้การกำกับการดำเนินงานของ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องอาศัยข้อมูล Big Data มาวิเคราะห์ในการวางแผนดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลดการป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งสามารถนำข้อมูลจากระบบ Financial Data Hub มาใช้วิเคราะห์มูลค่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงใช้เป็นข้อมูลผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์ในอนาคต
“ทั้ง Financial Data Hub และ Health Rider ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมีความทันสมัยมีประสิทธิภาพ และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ที่รวดเร็วและซับซ้อน ตลอดจนสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น นับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพของประเทศไทย และเป็นการยกระดับประเทศไทยสู่เวทีเทคโนโลยีสุขภาพระดับโลก รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้ร่วมมือกับนานาชาติในการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพต่อไป” นพ.วีรวุฒิกล่าว