ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยผลการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รับบริการทางการแพทย์กว่า 1.5 หมื่นราย ส่วนใหญ่ขอรับยาดม/แอมโมเนีย และมีอาการปวดศีรษะมากที่สุด ขณะที่การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน 4 ราย ดำเนินการได้อย่างทันท่วงที อยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันที่ 27 ตุลาคม 2567 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความห่วงใยประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จในงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารในวันนี้ ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยมีการจัดทีมแพทย์ประจำจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางขบวนพยุหยาตราทางชลมารค รวม 19 จุด เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ เวลา 10.00 น. จนเสร็จสิ้นพระราชพิธี
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ผลการให้บริการทางการแพทย์ มีผู้มารับบริการทั้งสิ้น 15,662 ราย ประกอบด้วย ประชาชน 14,124 ราย และเจ้าหน้าที่ 1,538 ราย โดยให้การปฐมพยาบาลทั้งสิ้น 17,998 ครั้ง ส่วนใหญ่ คือ ให้ยาดม/แอมโมเนีย 16,911 ครั้ง รองลงมา ทำแผล 30 ครั้ง รับยา (ไม่ได้ตรวจโดยแพทย์) 355 ครั้ง และบริการอื่นๆ เช่น วัดความดัน 702 ครั้ง เป็นต้น สำหรับประชาชนที่เข้ารับการตรวจรักษาโดยแพทย์ มีจำนวนทั้งสิ้น 300 ราย พบว่าเจ็บป่วยด้วยอาการปวดศีรษะมากที่สุด 69 ราย รองลงมา คือ เป็นลม 64 ราย ปรึกษาสุขภาพ 45 ราย กล้ามเนื้อและกระดูก 35 ราย และเวียนศีรษะ 23 ราย มีการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลศิริราช จำนวน 3 ราย ด้วยอาการ ท้องเสียร่วมกับภาวะช็อคจากการสูญเสียน้ำ สงสัยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และหน้ามืดหมดสติ และส่งต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ 1 ราย ด้วยอาการหน้ามืด บาดเจ็บที่ศีรษะ โดยทุกรายได้รับการรักษาจากแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ทั้งจากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ฯ โรงพยาบาล 4 เหล่าทัพ และภาคเอกชน รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่จัดทีมแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข มาร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชน พสกนิกรชาวไทยที่มาร่วมแสดงความจงรักภักดี ทำให้การดำเนินงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” นพ.โอภาส กล่าว