วันที่ 20 ตุลาคม 2567 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 20.00 น. เกิดฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ในวันนี้ สทนช.จึงได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์พบว่า ฝนที่ตกในพื้นที่ จ.อุทัยธานี โดยเฉพาะที่ สถานีบ้านหินตุ้ม อ.บ้านไร่ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่ 148.0 มม. ส่งผลให้เกิดให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ย่านการค้าเทศบาลตำบลบ้านไร่ อ.บ้านไร่ พื้นที่น้ำท่วมขยายออกไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบเต็มพื้นที่เทศบาลกระแสน้ำไหลแรง ทิศทางไหลจากบ้านห้วยป่าปก บ้านสะนำ เข้าสู่บริเวณรีสอร์ทเขารักแคมป์ ถนนหน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านไร่ จนถึงหน้าวัดบ้านไร่ เบื้องต้นความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ โดยไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว ในการนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้มอบหมายให้อำเภอบ้านไร่เร่งสำรวจความเสียหายและพื้นที่ประสบภัย จากนั้นรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยส่งให้จังหวัด เพื่อประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยฯ ต่อไป
รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวต่อว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ดังกล่าวเกิดขึ้นเหนือเขื่อนกระเสียว ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 157 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 53 ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ดังกล่าวได้อีกมาก โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่น้ำท่วมเดิมริมในแม่น้ำท่าจีน ทั้งในเขต จ.สุพรรณบุรี และ จ.นครปฐม นอกจากนี้ยังช่วยเติมปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างกระเสียว คาดว่าสิ้นฤดูฝนนี้จะมีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ทำให้สามารถจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การรักษาระบบนิเวศน์ และการเกษตรได้อย่างเต็มศักยภาพ สำหรับการบริหารจัดการน้ำเพื่อลดผลกระทบจากปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้นในลุ่มน้ำท่าจีนในช่วงนี้ สทนช.ได้ประสานกับกรมชลประทานปรับลดการรับน้ำเข้าพื้นที่ ทั้งที่ปากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง จากเดิมรับน้ำ 20 ลบ.ม./วินาที ปรับลดเป็น 10 ลบ.ม./วินาที หยุดการรับน้ำผ่านคลองจระเข้สามพัน และคลองท่าสารบางปลา เพื่อให้ระบบชลประทานในพื้นที่สามารถรองรับน้ำฝนที่จะตกเพิ่มลงมาได้อย่างเต็มศักยภาพต่อไป