วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นางโจเซฟีน พาริลลา (Ms. Josephine Cabahug Parilla) ประธานกรรมการโฮมเนทสากล และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อเยี่ยมคารวะ และหารือแนวทางการกำหนดนโยบาย และมาตรการด้านแรงงานเกี่ยวกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 177 ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน ค.ศ. 1996 โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมพร้อมด้วยท่านปลัดและผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ยินดีต้อนรับคณะโฮมเนทสากลเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความสำคัญในการรณรงค์ ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาแรงงานนอกระบบ หรือผู้รับงานไปทำที่บ้าน เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และช่วยส่งเสริมสิทธิสวัสดิการ การคุ้มครองทางสังคม กฎหมาย และความปลอดภัยในการทำงาน กระทรวงแรงงานพร้อมรับฟังข้อมูล ประเด็นปัญหา และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น เพื่อนำไปเป็นแนวทาง ในการกำหนดนโยบาย และมาตรการด้านแรงงาน รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 177 ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน ค.ศ. 1996 ในการแก้ไขปัญหาให้แก่กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน และพัฒนาแรงงานนอกระบบในประเทศไทย
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้านว่า ขณะนี้ยังมีคำนิยามและข้อกำหนดบางข้อที่ยังไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาไอแอลโอฉบับที่ 177 ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวก่อนที่จะให้สัตยาบันได้ ซึ่งกระทรวงแรงงานยินดีที่จะรับฟังข้อเรียกร้องจากโฮมเนทสากล เพื่อขยายขอบเขตความคุ้มครองให้สอดคล้องกับบริบทของประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาและเตรียมความพร้อมรองรับการให้สัตยาบันอนุสัญญา C 177 และได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เพื่อขยายการคุ้มครองแก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และให้สอดคล้องกับอนุสัญญา C 177 มากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอยู่ระหว่างเร่งรัดให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาปัจจุบัน ยังไม่ได้มีหนังสือให้หน่วยงานยืนยันร่างแต่อย่างใด
“กระทรวงแรงงาน เรามีแต่ละกรมเข้าส่งเสริมกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านให้มีทักษะฝีมือ มีอาชีพมีรายได้ และมีหลักประกันทางสังคมที่ดี ไม่ว่าจะเป็นกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะเข้าไป Up skill ให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านและมอบเครื่องมือให้ไว้ประกอบอาชีพ กรมการจัดหางานส่งเสริมแหล่งเงินทุนให้กลุ่มผู้รับงานไปเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพ สูงสุด 300,000 บาท และสำนักงานประกันสังคมส่งเสริมให้กลุ่มผู้รับงานไปทำงานที่บ้านได้เข้าประกันสังคมมาตรา 40 เพื่อให้มีหลักประกันทางสังคม ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน ยินดีที่จะพัฒนาความร่วมมือในการทำงานกับโฮมเนทสากล เพื่อนำประเด็นจากการหารือไปพิจารณาในการทำแผนกำหนดนโยบาย มาตราการที่เกี่ยวข้องกับแรงงานกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน และพัฒนาแรงงานนอกระบบในประเทศไทยต่อไป”นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้านนางมาร์ธา เชน ผู้ร่วมก่อตั้งโฮมเนทสากล กล่าวว่า ในนามคณะโฮมเนทสากลขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและผู้บริหารกระทรวงแรงงานที่เปิดโอกาสให้เข้าพบหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังข้อเสนอจากโฮมเนทสากล ในเพื่อให้ประเทศไทยได้ผลักดันสัตยาบันอนุสัญญา ใหเเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียในการดูแลคุณภาพชีวิต ของผู้รับงานไปทำที่บ้าน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันผลักดันในการดูแลกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านต่อไป