กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอกแนะนำ หากพบผู้เกิดภาวะหมดสติจากหัวใจหยุดทำงานกระทันหัน (Cardiac arrest) สามารถช่วยเหลือเบื้องต้น โดยโทรแจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669 และทำการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support , BLS) ร่วมกับใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator , AED)ในระหว่างรอหน่วยกู้ชีพมาถึง
นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน(Heart attack) หมายถึงการที่มีอาการของโรคหัวใจที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ พบบ่อยในผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และสาเหตุอื่นๆ เช่น ลิ้นหัวใจผิดปกติชนิดตีบหรือรั่วรุนแรง จนมีอาการหัวใจล้มเหลว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากอาการเป็นรุนแรงส่งผลทำให้เกิดภาวะหยุดทำงานกระทันหัน (Cardiac Arrest) หัวใจไม่สามารถบีบตัวสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ ทำให้เกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงและสมองขาดออกซิเจนจนหมดสติและเสียชีวิตได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน(Heart attack) ได้แก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคความดันโลหิตสูง ไขมันสูง เบาหวาน ผู้สูบบุหรี่เรื้อรัง ผู้มีภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจช่วงนอน ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน นักกีฬาที่มีโรคหัวใจแฝงและออกกำลังกายหนัก และผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเสียชีวิตตั้งแต่อายุน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบผู้หมดสติไม่รู้สึกตัวจากหัวใจหยุดทำงานกระทันหัน ไม่มีการตอบสนอง กระตุกชักเกร็ง หายใจเฮือกหรือหยุดหายใจ สามารถให้การช่วยเหลือเบื้องต้นดังนี้ 1.ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง 2.โทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือที่เบอร์ 1669 3.ทำการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานด้วยการกดนวดหัวใจ(CPR) 4.เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง 5.กรณีมีเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (AED) ให้ทำตามคำแนะนำของเครื่อง การกดนวดหัวใจเป็นการทำเพื่อให้มีการไหลเวียนของเลือด การผายปอดเป็นการช่วยเติมออกซิเจนให้ร่างกายผู้ป่วย หากผู้ป่วยยังมีหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง การใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติจึงมีความสำคัญ หลักการการทำงานของเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ คือการปล่อยกระแสไฟฟ้าไปกระตุกหัวใจของผู้ป่วยให้กลับมาเต้นปกติอีกครั้ง โดยในกลุ่มคนไข้ที่หมดสติหรือไม่รู้สึกตัวแล้วมีภาวะหัวใจหยุดเต้น การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานด้วยการนวดหัวใจอย่างเดียวอัตราการรอดชีวิตจะน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ แต่หากใช้เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติร่วมด้วย จะทำให้อัตราการรอดชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่า