ดร.มนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำน้ำล้นตลิ่งและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำขยายวงกว้างส่งผลกระทบให้พื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ปศุสัตว์หลายแห่งได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะถนนทางหลวงชนบท โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือปัจจุบันได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลาก จึงได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักร ลงพื้นที่ปรับเกลี่ยดินสไลด์และเคลื่อนย้ายกิ่งไม้ที่กีดขวางการจราจร บนถนนทางหลวงชนบทสาย มส.4001 – บ้านดอยแสง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 13+300) ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันสามารถสัญจรผ่านได้เรียบร้อยแล้ว
ดร.มนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทลำพูน ติดตามการซ่อมแซมคอสะพานชุมชนสาย ลพ.024 บ้านศรีเมืองยู้ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โดยเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้อย่างสะดวก เนื่องจากพบการทรุดตัวตรงบริเวณจุดรอยต่อ จึงได้ดำเนินการเสริมความแข็งแรงเพื่อให้เกิดความมั่นคง คาดว่าจะใช้เวลา 1 วันในการซ่อมแซมจึงจะแล้วเสร็จ เพื่อให้กลับมาใช้งานตามปกติดังเดิม และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยในปัจจุบัน (วันที่ 4 ต.ค. 67 เวลา 12.00 น.) สำนักบำรุงทาง รายงานถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี แม่ฮ่องสอน เลย และตาก จำนวน 9 สาย สัญจรผ่านได้ 3 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 6 สายทาง โดยมีสายทางที่สัญจรผ่านไม่ได้ ดังนี้
1. ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009 – บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 12+825 ถึง 13+400)
2. ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 – บ้านธาตุกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 ถึง 17+300)
3. ถนนสาย มส.3018 แยก ทล.108 – บ้านน้ำเพียงดิน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 8+400 ถึง กม.ที่ 8+500)
4. ถนนสาย ลย.2002 แยก ทล.21 – บ้านนาซำแซง อำเภอภูเรือ, วังสะพุง จังหวัดเลย (ช่วง กม.ที่ 22+241 ถึง กม.ที่ 22+270)
5. สะพาน ลย.018 สะพานอนุสรณ์ศรีฐานคณานุยุต อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
6. ถนนสาย ตก.5015 แยกทางหลวงชนบท ตก.1004 – บ้านแม่เชียงราย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 5+900 ถึง 5+940)
ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งปิดการจราจร ติดตั้งป้ายห้ามใช้เส้นทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ตาม ทช.ขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้เส้นทาง และสังเกตป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และโปรดวางแผนก่อนออกเดินทาง เพื่อเลี่ยงเส้นทางที่เกิดอุทกภัย หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน 1146