วันที่ 5 ก.ย. 62 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า พี่น้องชาวภาคอีสานกำลังประสบอุทกภัยในหลายจังหวัดเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ขณะเดียวกันยังต้องเตรียมรับมือกับพายุ ลูกใหม่ “คาจิกิ” ที่อาจซ้ำเติมสถานการณ์มากขึ้น รัฐบาลเร่งระดมสรรพกำลังเข้าไปให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าเป็นการด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวสารอาหารสดและอาหารแห้ง เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ในส่วน กระทรวงพลังงาน ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดรวมทั้งรัฐวิสาหกิจทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือร่วมกันจัดเตรียมถุงยังชีพจำนวน 5,500 ชุด พร้อมเดินทางไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 5,500 ครอบครัวในวันที่ 6-7 ก.ย. นี้ และเมื่อสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายลงจะได้ประเมินภาพรวมความเสียหายเพื่อส่งทีมกระทรวงพลังงานเข้าไปซ่อมแซม ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ต่อไป
นายสนธิรัตน์ เปิดเผยว่า ทีมกระทรวงพลังงานที่จะลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดในวันที่ 6-7 ก.ย. นี้ ประกอบด้วย นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน นายอนุรุทธิ์ นาคาศัย เลขานุการ รมว.พลังงาน นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา ที่ปรึกษา รมว.พลังงาน นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารของกรมกองต่าง ๆ นางมีนา ศุภวิวรรธน์ ผู้ช่วย กก.ผจก.ใหญ่นโยบาย และบริหารผู้มีส่วนได้เสีย นางพรทิพย์ โสววัฒนกุล ผจก.ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ปตท. และเมื่อตนเสร็จสิ้นภารกิจการประชุม รมต.พลังงานอาเซียนแล้วจะตามไปสมทบในวันที่ 7 ก.ย. และจะนำปัญหาจากชาวบ้านที่เดือดร้อนมาประสานกับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา
นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พิษของพายุโพดุลส่งผลให้พื้นที่ภาคอีสานเกิดอุทกภัยในวงกว้าง พืชผลการเกษตรเสียหาย ข้าวที่รอเกี่ยวต้องจมน้ำ บ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วม บางส่วนถูกดินสไลด์ทับทำลายไม่มีที่อยู่ ถนนหนทางถูกตัดขาด โดยเฉพาะจังหวัดร้อยเอ็ดขณะนี้มีสภาพเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบทุกทิศทาง ปริมาณน้ำในแม่น้ำชี แม่น้ำยัง ยังล้นเอ่อทำให้น้ำทุ่งไม่สามารถไหลออกนอกพื้นที่ได้ และคงต้องเอาใจช่วยไม่ให้พายุ “คาจิกิ” ส่งผลกระทบกับชาวบ้านมากขึ้น
ผู้ช่วย รมต.พลังงาน กล่าวด้วยว่า ล่าสุดได้มีประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในด้านอุทกภัยแล้ว จำนวน 7 อำเภอ 80 ตำบล 1,020 หมู่บ้าน 61,738 ครัวเรือน จาก20 อำเภอ 193 ตำบล 2,446 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เสลภูมิ เมืองสรวง โพนทอง ธวัชบุรี โพธิ์ชัย และอำเภอจังหาร ส่วนความเสียหายเบื้องต้น พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย จำนวน 3 แสนกว่าไร่ ประกอบด้วย ข้าว ประมาณ 3 แสนไร่ ที่เหลือเป็นพืชไร่และพืชสวน และขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ประสบภัยเพิ่มเติม
…………………………