กรมป่าไม้จัดงานสถาปนาครบรอบ 128 ปี ภายใต้แนวคิด “รักษ์ป่า รักษาสรรพชีวิต” พร้อมขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการแก้ไขปัญหาทรัพยากรป่าไม้ เพื่อเป็นการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐ เน้นย้ำแก้ปัญหาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนให้คนอยู่กับป่าได้อย่างมีความสุข สามารถใช้ประโยชน์จากป่าและรัฐสามารถได้แนวร่วมในการปลูกป่าอย่างยั่งยืน โดย รมว.ทส. ได้มอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวนายพลวัฒน์ ชนะบุญ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน 100,000 บาท จากกองทุนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันสถาปนาครบรอบปีที่ 128 ภายใต้แนวความคิด “รักษ์ป่า รักษาสรรพชีวิต” โดยมี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า การจัดงานวันสถาปนากรมป่าไม้ วันที่ 18 กันยายน ของทุกปี เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดตั้งกรมป่าไม้ขึ้น เมื่อวันที่ 18 กันยายน ร.ศ. 115 (พ.ศ. 2439) ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานที่ตั้งมายาวนานถึง 128 ปี ที่ผ่านมากรมป่าไม้จัดตั้งขึ้นเพื่อการทำไม้ เสริมสร้างเศรษฐกิจเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ แต่ในปัจจุบัน กรมป่าไม้ได้มีการปรับตัวเพื่อให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลง ได้น้อมนำแนวพระราชดำริเรื่องคนอยู่กับป่ามาใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำกลไกจิตอาสาพระราชทานมาเป็นเครือข่ายสำหรับใช้ในการปฏิบัติงาน และการขับเคลื่อนด้วยกลไกคณะกรรมการในการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า กลไกคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) การนำภาพถ่ายดาวเทียมและระบบติดตามการบุกรุกพื้นที่ป่าผ่านดาวเทียมมาใช้ในการป้องกันรักษาป่า การนำข้อมูลโครงการ One Map มาใช้ในการบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ตลอดจนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพมหานคร และชุมชนเมือง พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ และให้ประชาชนมีความเข้าใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อลดความขัดแย้ง โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาให้กับประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ เพื่อส่งต่อป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ให้กับลูกหลานในอนาคตต่อไป รมว.ทส. กล่าว
ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า กรมป่าไม้ ครบรอบ 128 ปี ได้วางแนวทาง การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเพื่อขับเคลื่อนงานในการดูแล รักษา ป้องกันผืนป่าไม่ให้มีการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ร่วมกับการสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ก่อให้เกิดความยั่งยืนระหว่างการอนุรักษ์ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้สร้างคุณภาพชีวิตและส่งเสริมความอยู่ดีกินดีของประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวความคิด “รักษ์ป่า รักษาสรรพชีวิต” สำหรับงานในปีนี้ จะมีการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “รักษ์ป่า รักแผ่นดิน” ให้แก่ ร้อยตำรวจเอก อรรถกวี ขุนพินิจ ประธานกรรมการ บริษัท ยูเนี่ยนเคมีคอล แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด ผู้ทำคุณประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และช่วยเหลือ สนับสนุน งานราชการป่าไม้จนเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม รางวัลเข็มเชิดชูเกียรติและโล่สำหรับผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้ และโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพปลูกสวนป่าระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวน 4 ราย ดังนี้ 1) นายสุมิตร ศรีวิสุทธิ์ ชนะเลิศอันดับที่ 1 2) นายสมศักดิ์ ปัญญาวิชา ชนะเลิศอันดับที่ 2 3) นายนิราช ดีโนนโพธิ์ ชนะเลิศอันดับที่ 3 และนายวินัย สุวรรณไตร รางวัลชมเชย โดยกรมป่าไม้ขอขอบคุณทุกท่านและทุกหน่วยงานที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจด้านต่าง ๆ ของกรมป่าไม้ นอกจากนี้ยังได้มอบชุดปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน
ภายหลังเสร็จสิ้นการมอบรางวัล ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือการป้องกัน เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย ระหว่าง กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรธรณี โดยมีนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และนายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านข้อมูล เทคโนโลยี นวัตกรรม เครื่องจักร เครื่องมือ โดยทั้ง ๔ หน่วยงาน จะให้ความร่วมมือในการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะ หรืออำนวยความสะดวกในการป้องกัน เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัย ในเรื่องการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ การบริหารจัดการในการจัดทำแผนที่ธรณีพิบัติภัยแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน การป้องกันและบรรเทาผลกระทบในพื้นที่ต้นน้ำ และพื้นที่เสี่ยงภัย ตลอดจนการออกแบบโครงสร้างและเครื่องมือเตือนภัย การออกแบบเครื่องมือเตือนภัยและเฝ้าระวัง การจัดฝึกอบรมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับธรณีพิบัติภัย ให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และการเตือนภัยโดยหาช่องทางในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการช่วยสื่อสารการเตือนภัยในพื้นที่ที่สามารถใช้ตรวจสอบสถานการณ์ของภัยและแจ้งเตือนที่สะดวกรวดเร็ว ตลอดจนการอพยพ การสำรวจพื้นที่ปลอดภัย เส้นทางหนีภัย เพื่อเป็นการรองรับการอพยพหนีภัย โดยการลงนามในความร่วมมือครั้งนี้ จะมีระยะเวลา ๕ ปี ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบกับธรณีพิบัติภัย อีกทั้งจะยังเป็นการวางแผนการปฏิบัติงานระยะยาวเพื่อช่วยแก้ปัญหาและช่วยลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน