วราวุธ ชี้ชัด “ซาฟารี ห้วยขาแข้ง เป็นแค่แนวคิด

จากกระแสข่าวการพัฒนาพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งกับอ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั้งทางบกและทางน้ำ ให้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถหรือล่องเรือชมธรรมชาติและสัตว์ป่าในรูปแบบ “ซาฟารี” คล้ายในทวีปแอฟริกา โดยเริ่มมีกลุ่มผู้คัดค้านแนวคิดและการดำเนินการดังกล่าว เช่นเดียวกับ นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัวต์ป่า และพันธุ์พืช แสดงความไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งซาฟารีห้วยขาแข้ง เนื่องจาก พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่ที่ความอุดมสมบูรณ์ของทั้งพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์หายาก

นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) ในการดำเนินการโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพและแรงจูงใจในการอนุรักษ์สัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2558 และจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2563 ทั้งนี้ ได้ประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบ ต่อไป

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (3 กันยายน 2562) ว่า การดำเนินการโครงการดังกล่าว เป็นเพียงแค่ข้อเสนอแนวคิดการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของกลุ่มคนทำงานทั้ง UNDP และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งตนเพิ่งรับทราบข้อเสนอแนวคิดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมจะต้องศึกษาถึงผลกระทบและรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ทั้งจากประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้ย้ำอยู่เสมอว่า “การกระทำใดก็แล้วแต่ คนและป่าต้องอยู่ร่วมกันได้” โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีหน้าที่ปกป้องผืนป่าและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และสัตว์ป่า หากการกระทำใดจะส่งกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯ ก็จะไม่ทำ แต่หากทุกฝ่ายยินยอมพร้อมใจที่จะดำเนินการ ก็ต้องหาข้อตกลงถึงผลดีผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นโดยละเอียด  ทั้งนี้ รมว. ทส. กล่าวย้ำว่า “โครงการดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังมิได้จะดำเนินการแต่อย่างใด” หากใครต้องการศึกษาเรื่องซาฟารี ก็สามารถทำได้ แต่เมื่อมานำมาเสนอ ตนก็จะเริ่มขั้นตอนกระบวนการในการพิจารณา ซึ่งขณะนี้ยังไม่ใช่บทบาทของ ทส. ในการพิจารณาแต่อย่างใด รมว. ทส. กล่าวย้ำ

ด้านนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังไม่ได้รับการรายงานผลการศึกษาดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งทราบว่ายังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาโครงการฯ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการเสนอรูปแบบเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการบริหารจัดการสัตว์ป่า ในรูปแบบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีเป้าหมายในการบริหารจัดการสัตว์ป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ให้ถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามีความอุดมสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็ให้ชุมชนในพื้นที่ได้มีรายได้ และดูแลอนุรักษ์สัตว์ป่าควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวต่อไป ก็จำเป็นจะต้องมีการพูดคุยหารือกันทุกภาคส่วน ถึงข้อดี ข้อเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้รอบด้านเสียก่อน โดยในขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่มีนโยบายจะดำเนินการในรูปแบบของซาฟารี ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง แต่ประการใด

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเสริมว่า ทางคณะวนศาสตร์และนักวิจัยได้มานำเสนอแนวคิดของโครงการ ให้กรมป่าไม้ได้รับทราบแล้วเมื่อ ต้นปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าพื้นที่ดำเนินโครงการอยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านบึงเจริญเนื้อที่ 4,700 ไร่ พื้นที่เตรียมจัดตั้งป่าชุมชนบ้านห้วยเปล้า 2,812 ไร่ และพื้นที่แหล่งน้ำที่เป็นเขื่อนทับเสลาจำนวน 6,406 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างกรมชลประทานขอต่ออายุการใช้ประโยชน์ที่ดินกับกรมป่าไม้ รวมทั้งมีประชาชนอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่โครงการบางส่วนและทราบว่ามีกลุ่มประชาชนบางกลุ่มที่ยังไม่เห็นด้วย ตนจึงยังมิได้ตัดสินใจสำหรับการดำเนินโครงการนี้ นอกจากนี้ ได้ให้คณะนักวิจัยไปจัดทำขอบเขตพื้นที่ให้ชัดเจน พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่และสร้างการรับรู้ความเข้าใจ ร่วมกันของทุกหน่วยงานถึงผลประโยชน์ที่พี่น้องประชาชนจะได้รับและการมีส่วนร่วมของชุมชนในทุกกิจกรรม ทั้งนี้ ควรมีแผนงานที่ชัดเจนครบวงจร ระบุหน่วยงานรับผิดชอบ แหล่งที่มาของงบประมาณ การบริหารจัดการการดำเนินงานโครงการที่สามารถดูแลโครงการได้ด้วยตนเองได้ อีกทั้ง กรมป่าไม้เห็นควรให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พิจารณาโครงการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่ ต่อไป

นายโสภณ ทองดี โฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวทิ้งท้ายว่า การดำเนินการจะต้องยึดแนวนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. เป็นสำคัญ โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เนื่องจาก เป็นพื้นที่มรดกโลกที่ความหลากหลายทางชีวภาพสูงและมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้ และจะต้องเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรอบ เป็นที่ยอมรับของสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย  นายโสภณ กล่าวย้ำ