ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของพะยูนน้อยที่พบเกยตื้นบริเวณเกาะปอดะ ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ว่า ภายหลังจากที่ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) อนุบาลและรักษาลูกพะยูนเกยตื้นมีชีวิต พบว่าพะยูนน้อยมีพฤติกรรมโดยทั่วไป สามารถดำน้ำและว่ายน้ำดีขึ้น มีการผายลมถี่ขึ้นเพื่อระบายแก๊ส จากการถ่ายภาพรังสีวินิจฉัยเพื่อติดตามปริมาณแก๊สที่สะสมอยู่บริเวณลำไส้ พบว่าแก๊สสะสมในลำไส้ลดลง และดำเนินการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ทางโลหิตวิทยา จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าค่ากลูโคสในกระแสเลือดต่ำ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จึงได้มีการปรับสัดส่วนของอาหารทดแทนนมเพื่อให้เหมาะสมต่อความต้องการโภชนะของลูกพะยูนมากขึ้น โดยให้นมทดแทนสำหรับลูกสัตว์และอิเล็กโทรไลต์ทางการสอดท่อทุก 3-4 ชั่วโมง รวมถึงทำการตรวจเฉพาะทางโรคตาเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติบริเวณตาซ้าย ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นแผลที่กระจกตา จึงให้ยาหยอดตาเพิ่มเติม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ศวอล. ยังคงเฝ้าระวังติดตามพฤติกรรมของลูกพะยูนตลอด 24 ชั่วโมงอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาปรับแนวทางการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของสัตว์ยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ จำเป็นจะต้องให้นม สารฟื้นฟูและบำรุงร่างกาย ยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เป็นประจำทุกวัน รวมถึงใช้ระบบ Life Support System คอยช่วยเหลือให้พะยูนน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีจิตอนุรักษ์ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพะยูนน้อยให้รอดปลอดภัย ทั้งนี้ ทุกท่านสามารถร่วมบริจาคเงินสมทบทุนเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี มูลนิธิไทย-เดนมาร์ก สำหรับสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เลขที่ 660-7-33412-1