พัชรวาท ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เสียสละช่วงวันหยุด ดูแลลูกพะยูนเกยตื้น อย่างใกล้ชิด 24 ชม.

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวถึงกรณีที่ ลูกพะยูน​เกยตื้น​​บริเวณเกาะปอดะ ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่​ เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ขนย้ายมารักษาและอนุบาลที่สถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง

ล่าสุด เมื่อค่ำวานนี้ (วันที่ 11 สิงหาคม ) ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รายงานความคืบหน้าให้ตนทราบว่าทางทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากกรมทะเลฯ ได้อนุบาลและรักษาเบื้องต้นพร้อมวินิจฉัยด้วยการถ่ายภาพรังสีและอัลตราซาวด์เพิ่มเติม พบว่ามีการสะสมของแก๊สภายในลำไส้ส่วนท้ายปริมาณมากและผนังลำไส้หนาตัว ส่งผลให้พะยูนมีอาการลอยตัวผิดปกติ จึงได้รักษาโดยการป้อนยา สารน้ำ และฉีดยาลดปวด ซึ่งการดูแลตลอด 36 ชั่วโมงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้สับเปลี่ยนกันเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ลูกพะยูนเกิดการสำลักน้ำ​รวมถึงการพาลูกพะยูนว่ายน้ำเพื่อกระตุ้นการทำงานของทางเดินอาหาร​และพร้อมช่วยเหลือสัตวแพทย์ในการทำหัตถการ รวมถึงติดตามอาการของลูกพะยูนอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดระยะเวลาการดูแลนั้นเจ้าหน้าที่ต้องอยู่ในน้ำด้วยตลอด 36 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติงานที่ต้องเสียสละเป็นอย่างมาก ตนขอให้กำลังใจให้เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานและขอให้ปฏิบัติการนี้สำเร็จลุล่วง ทั้งนี้ตนได้กำชับให้กรมทะเล นำประสบการณ์จากน้องมาเรียม และยามีล มาปรับใช้ในการดูแลลูกพะยูนครั้งนี้ด้วย

ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า จากการอนุบาลและปฐมพยาบาลเบื้องต้นทางสัตวแพทย์ได้วางแผนการรักษารวมถึงการวินิจฉัยเพิ่มเติม ได้แก่ เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อวิเคราะห์ทางโลหิตวิทยาและค่าชีวเคมีในเลือด การเพาะเชื้อตรวจหาความไวของยาต่อเชื้อแบคทีเรียเพื่อประกอบการพิจารณาการให้ยาปฏิชีวนะ การให้ยาอิเล็กโทรไลต์เพื่อลดสภาวะการขาดน้ำ การให้ยาระบายแก๊สและยาลดปวดเพื่อรักษาประคองอาการให้สัตว์รู้สึกสบายตัว รวมถึงจัดหานมผงสูตรสำหรับลูกพะยูนโดยเฉพาะเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการทางโภชนาการของตัวสัตว์มากยิ่งขึ้น เบื้องต้นตรวจค่าน้ำตาลในเลือดได้ 62 mg/dl ยังต้องเฝ้าระวังภาวะช็อกและให้สารน้ำทดแทนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังวางแผนการจัดการการจัดหาอาสาสมัครในการดูแลและช่วยเหลือสัตวแพทย์ในการทำหัตถการ รวมถึงติดตามอาการของลูกพะยูนตลอด 24 ชั่วโมงต่อไป