ชป.ย้ำเขื่อนใหญ่ทุกแห่ง พร้อมรับน้ำจากฝนตกหนัก หลังพายุโซนร้อน“โพดุล” เริ่มแผลงฤทธิ์

กรมชลประทาน คุมเข้มเขื่อนใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทุกแห่ง เตรียมพร้อมรับมือจาก พายุโซนร้อน “โพดุล” ย้ำบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน และต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการเก็บกักน้ำไว้ใช้ฤดูแล้งหน้าด้วย

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศแจ้งเตือนว่า เมื่อเวลา 08.00 น. พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โพดุล” ที่ปกคลุมบริเวณ จังหวัดนครพนม ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน)แล้ว และเมื่อเวลา 09.00 น. พายุได้เคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านบริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองบัวลำภู และเลย แล้วจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในทุกภาคของประเทศไทย นั้น

กรมชลประทาน ได้วางมาตรการในการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกในพื้นที่ และสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(สสน.) รวมทั้งให้ติดตามปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำของตนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในการระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับสภาวะฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้ง 35 แห่งทั่วประเทศ มีอ่างฯที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ 13 แห่ง อ่างฯที่มีความจุระหว่าง  ร้อยละ 31 – 50 ของความจุอ่างฯ มี 13 แห่ง ส่วนอ่างฯที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ มีอยู่ 9 แห่ง

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้งหมด 412 แห่งทั่วประเทศ มีอ่างฯที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ 146 แห่ง อ่างฯที่มีความจุระหว่างร้อยละ 30 – 50 ของความจุอ่างฯ มี 108 แห่ง ส่วนอ่างฯที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 50 – 100 ของความจุอ่างฯ มีอยู่ 130 แห่ง และอ่างฯที่มีความจุมากกว่าระดับเก็บกักมีอยู่ 28 แห่ง

สำหรับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ปัจจุบัน(30 ส.ค. 62) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 42,048 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 55 ของความจุอ่างฯรวมกัน สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 34,000 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณฝนที่ตกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “โพดุล” ในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนต่างๆ มากพอสมควร ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางภาคอีสานคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นโดยลำดับในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศ บูรณาการทำงานร่วมกับจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนและร่วมกันดูแลประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบหรือ    หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้ได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด จึงขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์น้ำและสภาวะอากาศ ในระยะนี้อย่างใกล้ชิด โดยสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วน กรมชลประทาน 1460

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

30 สิงหาคม 2562