16 กรกฎาคม 2567 – นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ฝากข้อห่วงใยถึงนักเรียน ผู้ปกครอง ครู และโรงเรียนในสังกัดทุกพื้นที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง จนเกิดผลกระทบจากฝนตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก อาจเกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้เรียน คุณครูและสถานศึกษา
โฆษก ศธ. กล่าวว่า จากพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าช่วงวันที่ 15-18 ก.ค.นี้ จะมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคะตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้สถานศึกษาในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
“กระทรวงศึกษาธิการ มีความห่วงใยเกี่ยวกับการรับมือพายุฝนของโรงเรียนต่าง ๆ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเรามีโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่อ่อนไหว สุ่มเสี่ยงจะได้รับอันตรายจากภัยธรรมชาติเป็นจำนวนมาก จึงขอฝากผู้เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่การศึกษา ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างใกล้ชิด คอยประเมินความเสี่ยง เฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมในการรับมือในพื้นที่ตามแผนเผชิญเหตุที่เตรียมไว้ รวมถึงตรวจสอบบ้านพักของนักเรียนที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบจากพายุ หากเกิดเหตุขึ้นแล้วให้เร่งสำรวจความเสียหาย เมื่อพบผลกระทบจากฝนตกหนัก น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม ต้นไม้ใหญ่หักโค่น หรืออุบัติเหตุอื่นใด ให้เข้าช่วยเหลือทันที หรือหากเกินกำลังของสถานศึกษา/สพท. ก็ขอให้ประสานกับหน่วยงาน ปภ.ของจังหวัดทันที”
พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญกับนโยบาย “ความปลอดภัยในสถานศึกษา” รวมถึงความปลอดภัยของผู้เรียนนอกสถานศึกษาด้วย โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา สามารถใช้เป็นสถานที่อพยพและศูนย์พักพิงชั่วคราวกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจากฝนตกหนักในช่วงนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกกับทุกฝ่าย และให้หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษาในพื้นที่ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ในจังหวัด เข้ามาดูแลนักเรียน ครอบครัวนักเรียน ตลอดจนประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ ตามแนวทาง “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”