เชสเตอร์ฟู้ด จับมือผู้ประกอบการในเครือฯ ยกระดับมาตรฐานร้านอาหาร ร่วมโครงการ ‘ไม่ทอดซ้ำ-ทอดไม่ทิ้ง’ สร้างสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด แบรนด์เชสเตอร์ (Chester’s) รังสรรค์เมนูยอดฮิตทั้งย่างและทอดมากว่า 36 ปี ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 200 สาขาทั่วไทย พร้อมมุ่งมั่นสร้างสุขภาพที่ดีต่อผู้บริโภค ควบคู่กับการใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม โดยลงนามความร่วมมือกับ BSGF ในกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัท ธนโชค ออยล์ไลท์ จำกัด ในโครงการ ‘ไม่ทอดซ้ำ’ และ ‘ทอดไม่ทิ้ง’ เพื่อรณรงค์ให้ผู้ประกอบการอาหารไม่ใช้น้ำมันปรุงอาหารที่ไม่ได้คุณภาพมาทอดซ้ำ และส่งเสริมการจัดการน้ำมันที่ใช้แล้วอย่างถูกวิธี ด้วยการนำไปเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF)

นางสาวลลนา บุญงามศรี กรรมการผู้จัดการ เชสเตอร์ฟู้ด กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เชสเตอร์ต้องการตอกย้ำนโยบายในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้บริโภค สร้างความมั่นใจต่อทุกมื้ออาหารที่รับประทานอาหารต้องใช้น้ำมันปรุงอาหารที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานและปลอดภัยต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการสร้างความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ หมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน

โครงการ ‘ไม่ทอดซ้ำ’ เชสเตอร์ต้องการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารในเครือฯ ทั่วประเทศไทย ไม่นำน้ำมันพืชใช้แล้วที่ไม่ได้คุณภาพ กลับมาทอดอาหารซ้ำ โดยเปิดอบรมวิธีการใช้น้ำมันที่ถูกวิธีและตรวจสอบคุณภาพน้ำมันทุกสาขาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ร้านที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับประกาศนียบัตรและสติ๊กเกอร์ ‘ไม่ทอดซ้ำ’ จากกรมอนามัยร่วมกับบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อสื่อสารและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้บริโภคในการรับประทานอาหารปลอดภัย

ด้าน โครงการ ‘ทอดไม่ทิ้ง’ เชสเตอร์ร่วมกับร้านอาหารในเครือฯ บริหารจัดการน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ จะสนับสนุนอุปกรณ์ในการจัดเก็บน้ำมันปรุงอาหารที่ใช้แล้ว ส่งมอบแก่ตัวแทนของ BSGF เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน สามารถใช้กับเครื่องบินได้โดยไม่ส่งผลกับเครื่องยนต์ ซึ่งทุกร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้ใบรับรองการสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่า มีการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดตามโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมทั้งช่วยผู้ประกอบการเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันที่ใช้แล้วอีกด้วย

สำหรับ ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ ต้องผ่านเกณฑ์สำคัญ ได้แก่ 1.) ไม่ใช้น้ำมันทอดซ้ำที่มีค่าสารโพลาร์ (Polar compounds) เกิน 25% ของน้ำหนักน้ำมัน 2.) ส่งต่อน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว เพื่อไปผลิตเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน อย่างต่อเนื่อง 6 เดือนขึ้นไป