กรมการแพทย์แผนไทยฯ นำองค์ความรู้ “นวดไทย” ประยุกต์ใช้สำหรับนักกีฬา

กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำองค์ความรู้ด้านการนวดไทย มาส่งเสริมสุขภาพตลอดจน การดูแล และรักษาสุขภาพของนักกีฬาในระยะเตรียมตัวก่อนการแข่งขัน ระหว่างการแข่งขันหรือฝึกซ้อม และ หลังจากการแข่งขัน เพื่อช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูร่างกายให้ฟื้นตัวได้เร็ว การนวดไทยจึงนับเป็นภูมิปัญญาอันล้ำค่า ของคนไทยที่มีเรื่องราวสืบทอดกันมาแต่ช้านานและมีบทบาทสำคัญในบำบัดและรักษาโรคตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

นายสมศักดิ์ กรีชัย ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า การนวดไทยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ เป็นการนวดเพื่อมุ่งเน้นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อสามารถกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ให้กระปรี้กระเปร่า นอนหลับสบาย สามารถสังเกตเครื่องหมายหรือป้ายสถานประกอบการนวดเพื่อสุขภาพ หากเป็น การนวดเพื่อการบำบัดรักษา เป็นการนวดเพื่อมุ่งเน้นการรักษาในกลุ่มอาการปวดเป็นการนวดที่เน้นกดจุดหนักเบา ซึ่งต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมมีความรู้และเชี่ยวชาญ ด้านการรักษา มีพื้นฐานทางกายวิภาคและการวินิจฉัยโรคหรือภาวะต่างๆ ที่เป็นข้อห้ามหรือข้อควรระวัง เช่น ห้ามนวดบริเวณที่เป็นมะเร็ง ผู้ที่มีไข้สูงบริเวณที่มีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน ผู้ที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ที่ยังไม่หายดี และ โรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด เป็นต้น

ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ได้นำอัตลักษณ์การนวดของแต่ละภาคมาจัดแสดงสาธิต อาทิ ภาคเหนือ นวดตอกเส้น ภาคกลาง การเหยียบเหล็กแดง ภาคอีสาน นวดขิดเส้น ภาคใต้ นวดน้ำมันลังกาสุกะ การนวดปรับสมดุลธาตุ การนวดสำหรับผู้มีบุตรยาก และนวดไทยสำหรับนักกีฬานำการนวดไปประยุกต์ใช้การบำบัด รักษา ฟื้นฟู โดยผู้เชี่ยวชาญของแต่ละแขนงการนวดแผนไทยนำมาจัดแสดงและให้ประชาชนได้สัมผัส

นอกจากนี้ การนวดไทยยังถูกนำไปใช้ร่วมกับการดูแลนักกีฬาเป็นการประยุกต์วิธีการนวดไทยมาใช้ในการตรวจ การวินิจฉัย การบำบัดรักษา การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพสำหรับนักกีฬา โดยมีหลักการที่สำคัญคือ ขนาดแรงที่ใช้นวด และระยะเวลาในการนวดรักษา ด้วยศาสตร์การนวดแผนไทยตามศิลาจารึกคัมภีร์แผนนวดวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร(วัดโพธิ์) เป็นวิชาที่มีลักษณะพิเศษเป็นเอกลักษณ์การนวด ที่ใช้รูปแบบการนวดที่แตกต่างกัน หลากหลายวิธี ซึ่งในแต่ละวิธีการนวดนั้น ก่อให้เกิดเป็นองค์ประกอบของการมีสุขภาพที่ดี

การนวดไทยส่วนมากใช้หลักการกด คือ การใช้นิ้วมือ สันมือ หรือข้อศอก กดลงที่ส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่มักใช้นิ้วหัวแม่มือกด เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น การคลึง คือ การใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วมือ หรือสันมือ ออกแรงกดให้ลึกถึงกล้ามเนื้อให้เคลื่อนไปมา หรือคลึงเป็นวงกลม การบีบ เป็นการจับกล้ามเนื้อให้เต็มฝ่ามือแล้วออกแรงบีบที่กล้ามเนื้อ เป็นการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังกล้ามเนื้อ ดังนั้นผู้นวดจะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนการนวดทั้งทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านความรู้ และ ทักษะ

การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ และการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ในปีนี้ จัดภายใต้แนวคิด “นวดไทย สปาไทย สมุนไพรไทยสู่เวทีโลก” ระหว่างวันที่ 3-7 กรกฏาคม 2567 ฮอลล์ 11 – 12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 6 โซน ได้แก่ โซนวิชาการ มีการประชุมและสัมมนาด้านแพทย์แผนไทยฯ โซน Service มีคลินิกให้คำปรึกษา ตรวจรักษาโรคด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทยฯ โซน Wisdom การนวดอัตลักษณ์ไทยและสมุนไพรอัตลักษณ์จาก 76 จังหวัด โซน Product ให้คำปรึกษาเรื่องการส่งออกและภาพรวมตลาดสมุนไพร โซน Wellness ให้บริการนวดไทย โชว์โมเดลสปาเพื่อสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ และโซน Innovation แจกต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์สมุนไพรฟรีวันละ 1,000 ชิ้น เป็นต้น สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร.02 591 7007, อินสตาแกรม, TIKTOK, Facebook Fanpage มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติหรือ Website: https://natherbexpo.dtam.moph.go.th ,Line ID : @DTAM