กฟผ. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และภาคประชาสังคม ประกอบด้วยสมาพันธ์สื่อสารมวลชนจังหวัดน่าน มูลนิธิฮักเมืองน่าน ประชาสัมพันธ์จังหวัดน่าน ป่าไม้จังหวัดน่าน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน ผู้นำชุมชน และนักวิชาการอิสระ จ.น่าน จัดกิจกรรมปลูกจิตสำนึกโครงการ “กล้าดี” ปีที่ 4 ประจำปี 2562 ภายใต้ หัวข้อ “กล้าดีจิตอาสา รักษ์ป่า สร้างรายได้” เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานกับเยาวชน ซึ่งปีนี้มีเยาวชนรวมทั้งหมด 35 ทีมเข้าร่วมโครงการฯ
วันที่ 27 สิงหาคม 2562 นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดกิจกรรมนำเสนอโครงการ “กล้าดี” ปีที่ 4 ประจำปี 2562 โดยมีนายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการอาวุโส สังกัดผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมเทวราช อ.เมือง จ.น่าน
นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า โครงการ “กล้าดี” เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อเยาวชน โดยสร้างความรู้สร้างความเข้าใจ พร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกด้านพลังงานและ
การดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ให้อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนเป็นโครงการที่สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งส่งเสริมให้เยาวชนกล้าแสดงออก คิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่ร่วมมือกันในโครงการฯ นี้
นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการอาวุโส สังกัดผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดน่าน จัดโครงการ “กล้าดี” ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านพลังงานกับเยาวชน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ โดยให้เยาวชนได้เป็นผู้คิดริเริ่มและนำเสนอโครงการเพื่อสร้างพื้นที่ป่าสีเขียวให้กลับคืนสู่เมืองน่าน ภายในโรงเรียน หรือในชุมชน อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ กฟผ. ยังมุ่งเน้นให้ผู้ปกครอง ครู และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการฯ ซึ่งจะเป็นอนาคตที่สำคัญของชาติต่อไป สำหรับการนำเสนอกิจกรรมของเยาวชนภายใต้โครงการ “กล้าดี” ในวันนี้ ได้รับความสนใจจากโรงเรียนและนักเรียนรวมทั้งสิ้น 35 ทีม
ทั้งนี้ กฟผ. ได้น้อมสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการดูแลรักษาป่าและน้ำมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ มาตั้งแต่ปี 2537 ด้วยแนวทางการปลูกป่าอย่างยั่งยืน 3 แนวทาง ได้แก่ ปลูกที่ท้อง คือการสร้างอาชีพและรายได้ ปลูกที่ใจ และปลูกในป่า ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ รวมทั้งแหล่งต้นน้ำลำธาร ตราบจนวันนี้ กฟผ. ได้ ปลูกป่าไปแล้วในพื้นที่ 47 จังหวัดทั่วประเทศ รวมพื้นที่กว่า 460,000 ไร่ โดยในพื้นที่จังหวัดน่านซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ กฟผ. ได้ดำเนินการปลูกไปแล้วกว่า 100,000 ไร่ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน และ กฟผ. ยังมีแผนที่จะปลูกป่าเพิ่มเติมอีกในอนาคต
“ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา กฟผ. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการผลิตไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทย เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึง โดย กฟผ. ใส่ใจและดูแลสังคม ชุมชม และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบ กฟผ. เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทั้งนี้ กฟผ. จะมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นตลอดไป” รองผู้ว่าการอาวุโส สังกัดผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวในตอนท้าย