กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ชวน อสม.ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มุ่งเสริมสร้างขวัญกำลังใจและสวัสดิการแก่บุคลากรด่านหน้า ให้ได้รับรองสถานภาพ และสิทธิประโยชน์อย่างเหมาะสม มั่นคงและยั่งยืน เกิดการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของชุมชน หนุนเสริมนโยบายภาครัฐ ให้ประชาชน คนไทยเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี
นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า รัฐบาลโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญต่อการสร้างขวัญกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในทุกระดับ จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามนโยบายสานต่อเรื่องดูแลขวัญกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะ อสม. ซึ่งเป็นพลังภาคประชาชนที่ให้การทุ่มเท เสียสละ ทำงานเป็นด่านหน้าในการดูแลสุขภาพประชาชน ไม่ว่าในภาวะปกติ หรือภาวะวิกฤติ อีกทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวช่วยเหลือทีมแพทย์พยาบาลในพื้นที่ และจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยถึงบ้าน จะต้องได้รับการดูแลและส่งเสริมพัฒนาอย่างยั่งยืน กรม สบส.จึงกำหนดจัดทำร่างพระราชบัญญัติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน พ.ศ… หรือกฎหมาย อสม.ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2567 โดยจัดให้ อสม.ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 และกำหนดจัดประชาพิจารณ์ 4 ภาค ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ซึ่ง อสม.ทุกท่านถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาร่างพระราชบัญญัติฯ กรม สบส. จึงขอเชิญชวนพี่น้อง อสม. ทั้ง 1.07 ล้านคนทั่วประเทศ เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติฯ ผ่านทางเว็บไซต์กรม สบส. (https://hss.moph.go.th/index2.php) เพื่อเข้าสู่กระบวนการตราพระราชบัญญัติต่อไป
“พระราชบัญญัติ อสม.จะเป็นกลไกสำคัญในการรับรองสถานภาพ การส่งเสริมพัฒนาทักษะในการจัดการสุขภาพชุมชน ที่สอดคล้องตามหลักการสาธารณสุขมูลฐาน รวมทั้ง ดูแลสิทธิประโยชน์ ของพี่น้อง อสม.ได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายแพทย์สุระฯ กล่าว
นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับร่างพระราชบัญญัติ อสม. มีใจความสำคัญอาทิ การกำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุน อสม. กำหนดช่วงอายุในการเป็น และสิ้นสุดสภาพของ อสม. แต่ไม่ใช้บังคับกับ อสม.เดิมที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ก่อนหน้า กำหนดให้มีการประเมิน ติดตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กำหนดให้มีการจัดตั้ง “กองทุนสนับสนุนการปฏิบัติงาน อสม.” เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการปฏิบัติงาน และช่วยเหลือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับ กำหนดหลักเกณฑ์ทางทะเบียนให้มีความชัดเจน ทั้งการขึ้นทะเบียน ย้ายทะเบียน และลบชื่อออกจากทะเบียน และกำหนดบทเฉพาะกาล ให้บุคคลที่ทำหน้าที่เป็น อสม.อยู่ก่อนหน้า ต้องแจ้งยืนยันตนภายในเวลา 1 ปี หากพ้นกำหนดเวลาให้ถือว่าพ้นสภาพจากการเป็น อสม.