ปลัด สธ.รับตำแหน่ง “ประธานสภาวัคซีนโลก” คนแรก หนุน IVI พัฒนางานวัคซีน สร้างความเท่าเทียม-ยั่งยืนทั่วโลก

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับคำเชิญดำรงตำแหน่ง “ประธานสภาวัคซีนโลก” คนแรก เป็นสภาที่ปรึกษาพร้อม ให้ข้อเสนอแนะแก่สถาบันวัคซีนนานาชาติ (IVI) มุ่งพัฒนางานวิจัยและกระจายวัคซีน สร้างความเท่าเทียมช่วยชีวิตผู้คนทั่วโลก สร้างความร่วมมือระหว่างภูมิภาค เพิ่มความยั่งยืนด้านสาธารณสุขระดับนานาชาติ

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้นำคณะประกอบด้วย นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 ทีมงานวิชาการจากกรมควบคุมโรค และกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมการประชุมประจำปี IVI Global Council ผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับรัฐภาคีของสภาวัคซีนโลก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตามที่สถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute: IVI) ได้เสนอให้ประเทศไทยโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้ารับตำแหน่งประธานสภาวัคซีนโลกเป็นคนแรก มีวาระการทำงาน 2 ปี ด้วยเหตุที่เป็นผู้ที่มีผลงานด้านวัคซีนที่โดดเด่นในทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งการวางแผนพัฒนา และการบริหารจัดการวัคซีนเพื่อประชาชนอย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนสำหรับแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค หรือวัคซีนป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง เช่น วัคซีนโควิด 19 เป็นต้น รวมถึงประเทศไทยได้แสดงบทบาทสำคัญในระดับนานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ความคิดริเริ่มด้านความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของอาเซียน หรือ ASEAN Vaccine Security and Self-Reliance (AVSSR) นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบกฎระเบียบของสภาโลก (Rule of Procedure) เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และกำหนดจัดการประชุมขับเคลื่อนภารกิจครั้งต่อไปที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2567 ซึ่งจะเป็นการพบปะกันของผู้แทนรัฐภาคีมากกว่า 20 ประเทศ

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า สภาวัคซีนโลกจะทำหน้าที่เป็นสภาที่ปรึกษาของ IVI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการสร้างสถาบันวัคซีนนานาชาติ และมีบทบาทในโครงสร้างการกำกับดูแลของสถาบันฯ โดยวัตถุประสงค์หลักของสภาวัคซีนโลก คือ การเพิ่มบทบาทและการทำงานของ IVI ในฐานะองค์กรระหว่างประเทศ โดยผสมผสานมุมมองของสมาชิกรัฐภาคีและยุทธศาสตร์ของ IVI และให้คำแนะนำแก่ฝ่ายบริหารของสถาบันเกี่ยวกับความต้องการและแนวทางแก้ไขสำหรับการพัฒนาและการใช้งานวัคซีน บนพื้นฐานความเท่าเทียมและการเข้าถึงวัคซีน และการสร้างขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในระดับโลก ภูมิภาคและระดับชาติ รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือระหว่างรัฐภาคี โดยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภูมิภาคและภาคส่วนต่างๆ ในการเพิ่มขีดความสามารถให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง (LMIC) เพื่อเพิ่มความยั่งยืนและความพอเพียงของวัคซีนในระยะยาว

“รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากรัฐภาคีต่างๆ ให้ดํารงตําแหน่งประธานสภาวัคซีนโลก ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาการวิจัยและทดลองวัคซีน ตลอดจนการผลิต การจัดหาที่ยั่งยืน และสนับสนุนการจัดการในภูมิภาคอาเซียน เรามั่นใจว่าคำแนะนําและการหารือร่วมกันที่มีประสิทธิผลระหว่างรัฐภาคี จะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกและข้อเสนอแนะใหม่ ๆ กับผู้บริหารของ IVI โดยงานสําคัญที่รออยู่ข้างหน้าคือ การสนับสนุนให้ IVI สามารถยกระดับการพัฒนาและกระจายวัคซีน เพื่อช่วยชีวิตผู้คนทั่วโลก ผ่านนวัตกรรมและการทํางานร่วมกัน และนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์และคำแนะนำให้ IVI พัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสำหรับพลเมืองโลกต่อไป” นพ.โอภาสกล่าว