รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยความสำเร็จโครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จัดมาแล้ว 73 ครั้ง ใน 65 จังหวัด ช่วยประชาชนได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์รวม 1,100,875 คน ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ได้ประมาณ 427 ล้านบาท วันนี้จัดที่นครสวรรค์และพิจิตร ช่วยประชาชนได้อีก 3,700 คน
เช้าวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ว่า โครงการนี้เป็นการนำแพทย์เฉพาะทางจากโรงพยาบาลใหญ่ไปดูแลรักษาประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของประชาชน เน้นการจัดคลินิกตรวจรักษาโรคเฉพาะทางที่เป็นปัญหาสำคัญ 7 คลินิก และคลินิกเพิ่มเติมตามบริบทปัญหาของพื้นที่ ช่วยให้ประชาชนได้รับการค้นหาและรักษาโรคในระยะเริ่มต้นอย่างทันท่วงที ลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต และยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรับบริการที่โรงพยาบาลได้อีกทางหนึ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2567 เป็นต้นมา ได้จัดหน่วยแพทย์เฉพาะทางออกให้บริการประชาชนแล้ว 73 ครั้ง ใน 65 จังหวัด ประชาชนได้รับบริการรวม 1,100,875 คน ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้ประมาณ 427 ล้านบาท
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับวันนี้ ตนพร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ได้เปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ อีก 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ จัดบริการรวม 21 คลินิก ได้แก่ คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง, คัดกรองมะเร็งปากมดลูก, คัดกรองมะเร็งเต้านม, คัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดี, คัดกรองสายตา, ทันตกรรมทั่วไป, นิ้วล็อค, โรคหัวใจ, คัดกรองมะเร็งช่องปาก, คัดกรองวัณโรค, แพทย์แผนไทย, คัดกรองภาวะสมองเสื่อม, คัดกรองโรคจากการประกอบอาชีพฯ, คลินิกรักษ์ใจ, ตัดรองเท้าเบาหวาน, กายภาพบําบัด, คลินิกรักษ์สุขภาพ, ฉีดวัคซีนผู้ใหญ่, ส่งเสริมการมีบุตร, ฝังเข็ม และคลินิกเภสัชกรพบประชาชน รวมทั้งมีการมอบฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ และมอบแว่นตาแก่ผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา มีประชาชนเข้ารับบริการประมาณ 1,500 คน
และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน จังหวัดพิจิตร จัดบริการรวม 12 คลินิก ได้แก่ คัดกรองมะเร็งตับและท่อน้ำดี, คัดกรองมะเร็งเต้านม, คัดกรองมะเร็งปากมดลูก, คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง, ทันตกรรม, ศัลยกรรมกระดูกและข้อ, จักษุ, กายภาพบำบัด, คลินิกแพทย์แผนไทย, ตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์, เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และคลินิกกายอุปกรณ์ นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และจัดนิทรรศการ “ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เพื่อสร้างความเข้าใจในนโยบายและการเข้ารับบริการของประชาชนด้วย โดยมีประชาชนเข้ารับบริการรวม 2,200 คน ประหยัดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ได้ประมาณ 650 – 800 บาทต่อคน หรือประมาณ 1,430,000 – 1,760,000 บาท